วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
ต้นอังกาบดอกขาวช่องทางการติดต่อร้านวรากรสมุนไพรทางไลน์สะดวกที่สุดค่ะไอดีไลน์ herbsdddQR code https://line.me/ti/p/T-oZ81KZrMโทร 0629246459ต้องการมาดูสินค้าโทรนัดหมายล่วงหน้านะคะอังกาบ มีด้วยกัน 3 สี คือ ชนิดดอกสีขาว ดอกสีเหลือง และ ดอกสีม่วง ซึ่งชนิดดอกสีม่วงมีถิ่นกำเนิดจาก จีน และ อินเดีย ส่วนชนิดดอกสีขาวกับดอกสีเหลืองพบขึ้นตามป่าราบและที่รกร้างว่างเปล่าทั่วไปในประเทศไทย สมัยก่อน อังกาบดอกขาวและอังกาบดอกเหลืองนิยมปลูกเป็นไม้ประดับเลาะตามแนวรั้วบ้านรั้วโรงเรียนอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันอังกาบดอกขาว และอังกาบดอกเหลืองหายากมาก ส่วนใหญ่ที่พบมีต้นวางขายจะเป็นอังกาบชนิดดอกสีม่วงของประเทศจีนและอินเดียอังกาบ ทั้ง 3 สี มีชื่อวิทยาศาสตร์เหมือนกันคือ BARIERIA CRISTATA LINN. ชื่อสามัญ PHILIPPINES VIOLET อยู่ในวงศ์ ACANTHACEAE เป็นไม้พุ่ม สูง 1-1.5 เมตร คนส่วนใหญ่มักจะคิดผิดว่าเป็นต้น “ต้อยติ่ง” เพราะผลมีรูปทรงเหมือนกันมาก แต่ผลของต้น “ต้อยติ่ง” เมื่อถูกน้ำจะแตกหรือระเบิดได้ ทำให้เด็กๆชอบเก็บผลไปโยนลงน้ำให้ระเบิดสนุกสนานตามประสา ส่วนผลแก่ของ “อังกาบ” ทั้ง 3 สี ถูกน้ำไม่แตกหรือระเบิด จะแตกอ้าได้เองตามธรรมชาติ และ “อังกาบ” ทั้ง 3 สี จะมีดอกในช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและปักชำต้นอังกาบทั้ง 3 สี มีสรรพคุณทางสมุนไพรเหมือนกัน คือ ราก ของ “อังกาบดอกสีม่วง” มีรสเฝื่อน ต้มน้ำดื่มเป็นยาขับปัสสาวะ ฟอกโลหิตระดูในสตรี ส่วนรากของ “อังกาบดอกขาว” และ“อังกาบดอกเหลือง” มีรสหวาน ต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้เสมหะ และช่วยเจริญไฟธาตุดีมาก
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ ปุณณภา งานสำเร็จ โทร. 0616499298 ไอดีไลน์ herbsddd
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 13 ปี 2 เดือน
วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
ต้นอังกาบหนูหรือทองพันชั่งดอกเหลือง ต้นใหญ่ใบเยอะต้นอังกาบหนูชื่อพฤกษศาสตร์ Barleria prionitis L. งศ์ Acanthaceae สกุลอังกาบ (Barleria) ที่มีประมาณ 230 ชนิด ส่วนใหญ่พบในแอฟริกาและเอเชีย ในไทยมีพืชพื้นเมืองมากกว่า 5 ชนิด เป็นวัชพืชและไม้ประดับต่างประเทศ 3-4 ชนิด อังกาบหนูแยกเป็นหลายชนิดย่อย (subspecies) ตามลักษณะช่อดอก สิ่งปกคลุมบนกลีบดอกและผล ความยาวของหนาม ความยาวของอับเรณู และเขตการกระจายพันธุ์ โดยเฉพาะในแอฟริกามีหลายชนิดย่อย ในไทยที่พบเป็นชนิดย่อย subsp. prionitis ดอกออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่งคล้ายช่อเชิงลดสั้น ๆ กลีบดอกด้านนอกมีขนสั้นนุ่ม และอับเรณูยาว 2-3.5 มม. พบครั้งแรกในอินเดีย มีชื่อสามัญว่า Porcupine flower เนื่องจากลำต้นมีหนายาวแข็งคล้ายขนเม่น หรือบางครั้งเรียกว่า Yellow hedge Barleria ตามความนิยมที่ใช้ปลูกทำรั้ว เป็นพืชสมุนไพรที่รู้จักกันแพร่หลายของการแพทย์อายุรเวทอินเดียโบราณ (Ayurveda) มีสรรพคุณมากมายชื่อพื้นเมือง เขี้ยวแก้ว, เขี้ยวเนื้อ (ภาคกลาง); มันไก่ (ภาคเหนือ)ถิ่นกำเนิด พบทั่วไปเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นวัชพืชที่คุกคามในหลายพื้นที่ในเขตร้อนรวมถึงออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก อาจมีถิ่นกำเนิดจากแอฟริกาตะวันออก ขึ้นตามที่โล่งและแห้งแล้งโดยเฉพาะบนเขาหินปูนเตี้ย ๆ พบมากทางภาคตะวันตกเฉียงใต้และภาคใต้ บางครั้งพบปลูกเป็นรั้วบ้าน เนื่องจากมีกิ่งหนาแน่นและมีหนามแหลมแข็งลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้พุ่ม สูง 1-1.5 ม. เกลี้ยง มีหนามรอบข้อ ยาว 1-2 ซม. ใบรูปรี รูปไข่ หรือรูปขอบขนาน ยาว 4-12 ซม. ปลายแหลม มีติ่งแหลม โคนสอบเรียว ขอบมีขนแข็ง แผ่นใบด้านล่างมีขนสั้นนุ่ม ก้านใบยาวได้ถึง 2.5 ซม. ช่อดอกออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่งคล้ายช่อเชิงลดสั้น ๆ ใบประดับรูปแถบ ยาวประมาณ 1 ซม. ใบประดับย่อยเป็นหนาม ติดทน ยาว 1-1.5 ซม. กลีบเลี้ยงคู่นอกยาวประมาณ 1.5 ซม. ปลายมีติ่งหนาม กลีบคู่ในรูปไข่ ปลายแหลมยาว ดอกสีเหลืองอมส้ม หลอดกลีบดอกยาว 2-2.5 ซม. กลีบบนยาวเท่า ๆ หลอดกลีบดอก กลีบล่างขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย เกสรเพศผู้ 2 อัน ยื่นเลยปากหลอดกลีบเล็กน้อย เป็นหมัน 2 อัน ก้านเกสรเพศเมียยาวกว่าเกสรเพศผู้ ผลรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ยาว 1.5-2 ซม. ปลายมีจะงอย เมล็ดมี 2 เมล็ด แบน รูปไข่ ยาว 5-7 มม. มีขนคล้ายไหมการใช้ประโยชน์ จากการศึกษาด้านเคมีของอังกาบหนูพบสารประกอบทางเคมีหลายอย่าง และมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยามากมาย เช่น มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา เชื้อไวรัส ฆ่าพยาธิ ต้านอนุมูลอิสระ ลดน้ำตาลในเลือด ควบคุมการทำงานของเอนไซม์ ลดการอักเสบ ความเจ็บปวด ลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ลดการอักเสบของตับ ช่วยขับปัสสาวะ และลดอาการแพ้ได้ดี ส่วนข้อมูลด้านความเป็นพิษ ยังไม่พบรายงานความเป็นพิษใด ๆ จากการใช้อังกาบหนู ประโยชน์ด้านอื่น ๆ เนื่องจากมีสรรพคุณลดการระคายเคือง การติดเชื้อ และอาการแพ้ต่าง ๆ จึงมีการนำสารสกัดจากอังกาบหนูเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางสำหรับบำรุงผิวและเส้นผม และยังพบปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกสีเหลืออมส้มขนาดใหญ่ ดอกออกตลอดทั้งปีข้อมูลจากการศึกษาด้านการใช้ส่วนต่าง ๆ ของต้นอังกาบหนูเป็นพืชสมุนไพร และสรรพคุณด้านต่าง ๆ ประกอบด้วยราก บดใช้ประคบอาการบวมต่าง ๆ เช่นฝีหนองหรือต่อมน้ำเหลืองบวมเปลือก ต้มกินลดเสมหะ ขับเหงื่อ ใช้บ้วนปากแก้ปวดฟัน เลือดออกตามไรฟันลำต้น ใช้ลดอาการอักเสบ และโรคระบบทางเดินอาหารใบ คั้น ผสมน้ำผึ้งกินแก้ไข้ ลดน้ำมูกในเด็ก ใช้ประคบแผล ส้นเท้าแตก และสิว ใบสดเคี้ยวแก้ปวดฟันดอก ต้มกินแก้โรคไมเกรน ฝีหนอง อาการบวมน้ำ อาการไอเป็นเลือด ปัสสาวะและท่ออสุจิขัด ทำให้เชื้ออสุจิลดจำนวนช่วยในการคุมกำเนิดทั้งต้นรวมราก ต้มกินมีสรรพคุณขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง บำรุงตับ บรรเทาอาการดีซ่าน แก้โรคท้องมาน บรรเทาอาการแขนขาอ่อนแรง ไขข้ออักเสบ ให้อัณฑะขยายตัว ลดอาการปวดร้าวจากการกดทับรากประสาทไขสันหลัง ผสมน้ำผึ้งกินแก้หอบหืดในประเทศไทย มีการศึกษการใช้ประโยชน์จากต้นอังกาบหนูบ้าง แต่ไม่หลากหลายชนิดอื่น ๆ ในสกุลเดียวกัน คือเสลดพังพอน (Barleria lupulina Lindl.) และสังกรณี (B. strigosa Willd.) แต่ปรากฎการณ์ที่สร้างกระแสเมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ (2561) ที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งในจังหวัดสุโขทัยหลายคนใช้สมุนไพรอังกาบหนูแล้วหายหรืออาการดีขึ้น ทำให้มีการปั่นกระแสความต้องการ ทำให้ต้นอังกาบหนูที่ปลูกตามสถานที่ต่าง ๆ หรือที่ขึ้นเป็นวัชพืชในหลายจังหวัด ถูกประชาชนเข้าตัดและขุดเพื่อนำไปให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งในอนาคตอาจมีการนำไปจำหน่ายในราคาที่สูง อย่างรก็ตาม หน่วยงานรัฐหลายแห่งออกมาให้ข้อมูลว่ายังไม่มีผลการศึกาาวิจัยรองรับในการรักษาโรคมะเร็ง การที่ผู้ป่วยหลายรายมีอาการดีขึ้นจากการใช้พืชสมุนไพรอังกาบหนู อาจเป็นผลมาจากสรรพคุณที่หลากหลายตามรายงานข้างต้น โดยเฉพาะมีฤทธิ์ต้านเชื้อโรคต่าง ๆ ต้านอนุมูลอิสระ ลดน้ำตาลในเลือด ควบคุมการทำงานของเอนไซม์ ลดการอักเสบ บวม ความเจ็บปวด และบำรุงธาตุให้มีกำลัง แต่การรักษาโรคมะเร็งควรได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องจากแพทย์แผนปัจจุบัน การบริโภคพืชสมุนไพรโดยไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง หรือเป็นไปตามตำหรับแพทย์แผนโบราณอาจเกิดความเป็นพิษและไม่มีผลต่ออาการป่วยต่าง ๆ ตามสรรพคุณได้ และการบริโภคสมุนไพรเชิงเดี่ยวเป็นเวลานาน ๆ อาจเกิดพิษได้ แม้ว่ายังไม่มีรายงานความเป็นพิษจากการใช้อังกาบหนูการขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ง่ายโดยใช้เมล็ด กิ่งปักชำ หรือกิ่งตอน โตเร็ว ชอบที่ค่อนข้างแห้งแล้ง จึงมักพบเป็นขึ้นวัชพืชหนาแน่น โดยเฉพาะทางภาคตะวันตกเฉียงใต้แถบจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี
ราคาต้นละ 500.00 บาท ติดต่อ ปุณณภา งานสำเร็จ โทร. 0616499298 ไอดีไลน์ herbsddd
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 13 ปี 2 เดือน
วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
ขายต้นทองพันชั่ง ต้นปลูก ความสูง 30-60 ซม. น้ำหนักถุงเพาะ 0.5-1กก/ถุง ส่งสินค้าแบบอีเอมเอส ค่าส่งต้นไม้ 1-4 ต้น/กล่อง/ ค่าส่ง100 บาททองพันชั่งสมุนไพรสามัญประจำบ้าน สมุนไพรรักษามะเร็ง ป้องกันอัมพฤกอัมพาต รักษาโรคผิวหนัง ไม้ประดับดอกสวยแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าคนโบราณให้ความสำคัญกับไม้ต้นนี้ขนาดไหน ปลูกไว้เถอะค่ะ สุดยอดสมุนไพร เป็นไม้ประดับก้อสวยชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhinacanthus nasutus (L.) Kurzชื่อพ้อง : R. communis Neesชื่อสามัญ : White crane flowerวงศ์ : ACANTHACEAEชื่ออื่น : ทองคันชั่ง หญ้ามันไก่ (ภาคกลาง)ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง 1-2 เมตร กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม ส่วนโคนต้นเนื้อไม้เป็นแกนแข็ง ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน รูปไข่ กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-8 ซม. ปลายใบแหลมเรียว โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกสีขาว กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 2 ปาก ปากล่างมีจุดประสีม่วงแดง ผล เป็นฝักเล็ก พอแห้งแตกออกได้ส่วนที่ใช้ : ราก ทั้งต้น ต้น ใบสรรพคุณ : ราก - แก้กลากเกลื้อน รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคผิวหนัง ดับพิษไข้ แก้พิษงู แก้พยาธิวงแหวนตาผิวหนัง ทั้งต้น - รักษาโรคผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน รักษามะเร็ง คุดทะราด ขับพยาธิตามผิวหนัง ตามบาดแผล แก้ไส้เลื่อน ไส้ลาม แก้ปัสสาวะผิดปกติต้น - บำรุงร่างกาย แก้โรค 108 ประการ รักษาโรคผมร่วงใบ - ดับพิษไข้ แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน แก้โรคไขข้ออักเสบ รักษาโรคผิวหนัง รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคความดันโลหิตสูง แก้ผมร่วง บำรุงร่างกาย แก้โรค 108 ประการ แก้ปวดฝี แก้พิษงู ถอนพิษ แก้อักเสบ แก้โรคมุตกิต รักษาโรคพยาธิวงแหวนตามผิวหนังนอกจากนี้ยังใช้ผสมในตำรับยาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ รักษาโรคต่อไปนี้คือราก - รักษามะเร็งเนื้องอก รักษามะเร็งปอด กระเพาะลำไส้ มะเร็งตามร่างกาย ทำให้ผมดกดำ แก้ไอเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด แก้ริดสีดวงทวาร ดับพิษไข้ รักษาโรคผิวหนัง แก้กระษัย แก้ผมหงอก ผมร่วง รักษาโรคตับพิการ รักษาโรครูมาติซึม รักษาโรคไขข้อพิการ แก้ลมเข้าข้อทำให้ปวดบวมต่างๆ ขับปัสสาวะ แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแคทั้งต้น - รักษาโรคผิวหนัง คุดทะราด แก้เม็ดผื่นคันต้น - รักษามะเร็งเนื้องอก รักษามะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะ มะเร็งตามร่างกาย มะเร็งลำไส้ แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค รักษาโรคผิวหนังใบ - แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค รักษาโรคผิวหนัง แก้ไข้ แก้ปวดหัวตัวร้อน แก้มะเร็งไช แก้หิดมะตอย รักษาโรคมะเร็ง รักษาวัณโรค แก้ใจระส่ำระสาย แก้คลุ้มคลั่ง แก้สารพัดพิษนอกจากนี้ในตำราบางเล่ม ยังได้กล่าวถึงสรรพคุณทองพันชั่ง โดยไม่ได้ระบุว่าใช้ส่วนใดของพืช หรือส่วนใดในตำรายาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ ในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ ดังต่อไปนี้คือ- รักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาโรคมะเร็ง แก้มุตกิตระดูขาว เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ผมร่วง รักษาโรคนิ่ว - แก้เคล็ดขัดยอกชายโครง มือเคล็ด คอเคล็ด แก้มะเร็งในกระเพาะ แก้ฝีประคำร้อย แก้มะเร็งในคอ แก้มะเร็งในปาก แก้ไข้เหนือ แก้จุกเสียด เป็นยาหยอดตา แก้ไอเป็นเลือด แก้ช้ำใน แก้นิ่ว แก้โรคผิวหนัง แก้ลมสาร แก้มะเร็งในปอด แก้มะเร็งภายในและภายนอกวิธีและปริมาณที่ใช้ :ตำรับยาสมุนไพรรักษาโรค : โรคอัมพาตและอัมพฤกษ์ตัวยา ประกอบด้วยต้นหมอน้อย ทองพันชั่ง และต้นเตยหอม1.ต้นหมอน้อย หรือต้นม่านพระอินทร์ ภาษาจีนเรียกว่า เซี่ยวซัวโอ้ว ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามท้องนา ตามวัดและที่ชุ่มชื้นทุกแห่ง ถอนเอามาทั้งต้น2.ต้นทองพันชั่ง เป็นสมุนไพรที่หาได้ง่าย ถอนเอามาทั้งต้น3. ต้นเตยหอม ตัดเอามาแต่ต้นกับใบ เพื่อนำมาประกอบให้ยานั้นหอม น่ากินขึ้น และบำรุงหัวใจได้บ้างวิธีปรุงตัวยาทั้ง 3 อย่าง นำมาต้มอย่างละเท่ากัน กะประมาณพอให้กินน้ำยาเพียงพอ 1 วัน ต้มเคี่ยวพอสมควร วิธีรับประทานรินน้ำยาใส่กระติกน้ำร้อน เก็บไว้กินต่างน้ำหรือต่างน้ำชา จะกินทุกวันหรือเว้นวันบ้างก็ได้ กินติดต่อกันประมาณ 15-30 วัน สรรพคุณจะไม่ปวดเมื่อยตามข้ออีกด้วย ถ้ากินบ้างไม่กินบ้าง แต่กินตลอดไป รับรองว่าชาตินี้ท่านไม่เป็นโรคอัมพาตและอัมพฤกษ์นอกจากนี้ทองพันชั่งใช้รับประทานเป็นยาภายใน รักษาโรคมะเร็ง และวัณโรคระยะเริ่มแรก1. ใช้ทั้งต้น สด จำนวน 30 กรัม ต้มกับน้ำ จำนวนท่วมใบยา ต้มดื่มต่างน้ำ2. ใช้ก้านและใบสด 30 กรัม (แห้ง 10-15 กรัม) ผสมน้ำตาลกรวดต้มน้ำดื่ม รักษาโรคปอดระยะเริ่มแรกทองพันชั่ง แก้โรคมะเร็งปอด ( ต้มกินกับน้ำผึ้งเดือน ๕ )สูตรของอ.ยักษ์ใช้เป็นยาภายนอก แก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อนและผื่นคันอื่นๆ1. ใช้ใบสด 5-8 ใบ หรือ รากสด 2-3 รากใบสดตำให้ละเอียด เติมเหล้าโรงเล็กน้อย ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อน หรือเอารากมาป่น แช่เหล้าไว้ 1 สัปดาห์ กรองเอาน้ำยาที่แช่มาทา ทาบ่อยๆ จนกว่าจะหาย2. ใช้ใบสดตำผสมน้ำมันดิบ หรือ แอลกอฮอล์ 75% ทาบริเวณที่เป็นสารเคมี - Rhinacathin, Oxymethylanthra quinone, Quinone, Rutin (quercetin - 3 - rutinoside)
ราคาต้นละ 200.00 บาท ติดต่อ ปุณณภา งานสำเร็จ โทร. 0616499298 ไอดีไลน์ herbsddd
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 13 ปี 2 เดือน