วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
เถาวัลย์เปรียงแดง ไม้โคตรหายากในตำนาน น้อยคนที่จะรู้จักและเคยเห็นต้นจริง มีสรรพคุณเช่นเดียวกันกับเถาวัลย์เปรียง ธรรมดาแต่ดีกว่า
อย่าถามเราว่าอะไรยังไง ใครรู้จัหรือได้ยินชื่อไม้ตัวนี้ น่าจะรู้รายละเอียดและสรรพคุณดีกว่าเราแน่นอน รอคุณมาเล่าให้เราฟัง ใครสะสมไม้หาโคตรยาก ไม้ในตำนาน ทักมา
ต้นปลูก ความสูง 30-60 ซม. น้ำหนักถุงเพาะ 0.5-1กก/ถุง ส่งสินค้าแบบอีเอมเอส ค่าส่งต้นไม้ 1-4 ต้น/กล่อง/ ค่าส่ง100 บาท
ราคาต้นละ 500.00 บาท ติดต่อ ปุณณภา งานสำเร็จ โทร. 0616499298 ไอดีไลน์ herbsddd
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 1 เดือน
วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
เถาวัลย์เปรียง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์วิจัยพบสารสกัด "เถาวัลย์เปรียง" มีสรรพคุณรักษาอาการปวดเทียบเท่ายาไดโคลฟีแนก และยานาโพรเซน ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง
ร้านวรากรสมุนไพร ขายต้นสมุนไพร ว่านมงคลและพันธุ์ไม้ไทยหายากทุกชนิด
ชื่อต้นไม้หรือสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์ เจ็ดกำลังช้างสาร
ประเภท สมุนไพร ไม้หายาก
ราคา ต้นละ 200 บาท
ติดต่อสอบถามร้านวรากรสมุนไพร
โทร 0616498997,0616499298
ไอดีไลน์ herbsddd
http://line.me/ti/p/~herbsddd
ต้องการมาดูสินค้าโทรนัดหมายล่วงหน้านะคะ
เถาวัลย์เปรียง
ชื่ออื่น เครือเขาหนัง เถาตาปลา เครือตาปลา(นครราชสีมา) ย่านเหมาะ(นครศรีธรรมราช) พานไสน(ชุมพร) เครือตับปลา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Derris scandens (Roxb.) Benth
ชื่อวงศ์ Papilionaceae
ลักษณะ
เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ สามารถเลื้อยไปได้ไกลถึง 20 เมตร มีกิ่งเหนียวและทนทาน กิ่งแตกเถายืดยาวอย่างรวดเร็ว เถามักเลื้อยพาดพันตามต้นไม้ใหญ่ เถาแก่มีเนื้อไม้แข็ง เปลือกเถาเรียบและเหนียว เป็นสีน้ำตาลเข้มอมสีดำหรือแดง เถาใหญ่มักจะบิด เนื้อไม้เป็นสี ออกน้ำตาลอ่อน ๆ มีวงเป็นสีน้ำตาลไหม้คล้ายกับเถาต้นแดง (เนื้อไม้มีรสเฝื่อนและเอียน) ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาลปกคลุม ขยายพันธุ์ ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดหรือวิธีการแยกไหลใต้ดิน ชอบอากาศเย็นแต่แสงแดดจัด ทนความแห้งแล้งได้ดี หากปลูกในที่แล้งจะออกดอกดก แต่จะมีขนาด เล็กกว่าปลูกในที่ชุ่มชื้น พรรณไม้ชนิดนี้มักขึ้นเองตามชายป่าและที่โล่งทั่วไป เป็นพรรณไม้ที่มีมากที่สุดในประเทศไทยและใช้กันทุกจังหวัด ใบเ เถาวัลย์เปรียง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกออกเรียงสลับกัน มีใบย่อย 4-8 ใบ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปรี ปลายใบเป็นรูปหอก โคนใบมน ขอบใบเรียบ
ดอกเถาวัลย์เปรียง ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด ช่อดอกเป็นสีขาวห้อยลง ดอกเป็นสีขาวอมสีม่วงอ่อนคล้ายกับดอกถั่ว กลีบ ดอกมี 4 กลีบและมีขนาดไม่เท่ากัน สวนกลีบเลี้ยงดอกมีลักษณะเป็นรูปถ้วย สีม่วงแดง ผลเถาวัลย์เปรียง ออกผลเป็นฝักแบน โคนฝักและปลาย ฝักมน ฝักเมื่อแก่เป็นสีน้ำตาลอ่อน ภายในฝักมีเมล็ดประมาณ 1-4 เมล็ด
สรรพคุณ:
ตำรายาพื้นบ้าน: ใช้เถา ขับปัสสาวะ แก้บิด แก้หวัด ใช้เถาคั่วไฟให้หอมชงน้ำกินแก้ปวดเมื่อย แก้เส้นเอ็นพิการ แก้เมื่อยขบในร่างกาย แก้กระษัยเหน็บชา ต้มรับประทานถ่ายเส้น ถ่ายกระษัย แก้เส้นเอ็นขอด ถ่ายเสมหะ ไม่ถ่ายอุจจาระ เหมาะที่จะใช้ในโรคบิด ไอ หวัด ใช้ในเด็กได้ดี แก้ปวด แก้ไข้ ทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ บางตำรากล่าวว่าทำให้มีกำลังดีแข็งแรงสู้ไม่ถอย
เป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในสูตรยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยใช้เป็นส่วนประกอบเพิ่มเติมจากสูตรยาอบสมุนไพรหลัก เมื่อต้องการอบเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว เป็นต้น
บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ระบุการใช้เถาวัลย์เปรียงในตำรับ “ยาผสมเถาวัลย์เปรียง” มีส่วนประกอบของเถาวัลย์เปรียงร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
รูปแบบและขนาดวิธีใช้ยา:
บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ เถาวัลย์เปรียงจัดอยู่ในกลุ่มยารักษาอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก ระบุรูปแบบและขนาดวิธีใช้ยาดังนี้
1. บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ
ผงจากเถาของเถาวัลย์เปรียง รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม ถึง 1 กรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารทันที
2. บรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง และอาการปวดจากข้อเข้าเสื่อม
สารสกัดจากเถาด้วย 50%เอทานอล รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารทันที
ข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์
คำเตือน
ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยแผลเพปติก เนื่องจากเถาวัลย์เปรียงออกฤทธิ์คล้ายยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ จึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินอาหารได้
อาการไม่พึงประสงค์
ปวดท้อง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย คอแห้ง ใจสั่น เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ อุจจาระเหลว
องค์ประกอบทางเคมี:
สารกลุ่ม isoflavone glycoside ได้แก่ eturunagarone, 4,4’-di-O-methylscandenin, lupinisol A, 5,7,4’-trihydroxy-6,8-diprenylisoflavone, 5,7,4’-trihydroxy-6,3’-diprenylisoflavone, erysenegalensein E, derrisisoflavone A-F, scandinone, lupiniisoflavone G, lupalbigenin, derrisscandenoside A-E, 7,8-dihydroxy-4’-methoxy isoflavone, 8-hydroxy-4’,7-dimethoxy isoflavone-8-O-b-glucopyranoside, 7-hydroxy-4’,8-dimethoxy isoflavone-7-O-beta-glucopyranoside, formononetin-7-O-beta-glucopyranoside, diadzein-7-O-[-rhamnopyranosyl-(1,6)]-beta-glucopyranoside, formononetin-7-O-- rhamnopyranosyl-(1,6)]-beta-glucopyranoside, derrisscanosides A-B, genistein-7-O-[- rhamnopyranosyl-(1,6)]-beta-glucopyranoside
สารกลุ่มคูมาริน ได้แก่ 3-aryl-4-hydroxycoumarins สารกลุ่มสเตียรอยด์ได้แก่ lupeol, taraxerol, b-sitosterol สารอื่นๆ เช่น 4-hydroxy-3-methoxy benzoic acid, 4-hydroxy-3,5-dimethoxy benzoic acid
การศึกษาทางเภสัชวิทยา:
ฤทธิ์ต้านอักเสบ
สารสกัดลำต้นเถาวัลย์เปรียงด้วยน้ำ นำมาทดสอบฤทธิ์ลดการอักเสบในหลอดทดลองโดยวัดการลดลงของเอนไซม์ myeloperoxidase(MPO) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบในแกรนูลซึ่งอยู่ภายในเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิล ในระหว่างที่มีการอักเสบ MPO จะเคลื่อนที่ออกมา ผลการทดสอบพบว่าสารสกัดน้ำลดการหลั่ง myeloperoxidase ได้ 88% โดยใช้ peritoneal leukocytes ของหนูขาวเพศผู้สายพันธุ์วิสตาร์ ที่ถูกกระตุ้นให้อักเสบด้วย calcium ionophore และสารสกัดน้ำมีผลยับยั้งการสังเคราะห์สารอิโคซานอยด์ (eicosanoid) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการอักเสบ ได้แก่ leukotriene B4 สารสกัดน้ำยังลดการบวมที่อุ้งเท้าหนูขาว สายพันธุ์ Sprague–Dawley เมื่อใช้คาราจีแนนเหนี่ยวนำการบวม โดยพบว่าสารสกัดน้ำขนาด 100 และ 500 mg/kg เมื่อให้โดยการฉีดเข้าช่องท้องหนู สามารถลดการบวมได้ 82 และ 91% ตามลำดับ (Laupattarakasem, et al., 2003)
ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ COX-1
สกัดลำต้นเถาวัลย์เปรียงด้วยตัวทำละลายชนิดต่างๆ ได้แก่ 50% เอทานอล,เฮกเซน, คลอโรฟอร์ม, บิวทานอล และน้ำ และแยกสารบริสุทธิ์จากสารสกัดน้ำ 2 ชนิด คือ piscidic acid และ genistein 7-O--rhamnosyl (16)--glucopyranoside นำมาศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบ ผลการศึกษาพบว่าสารสกัด 50% เอทานอล, สารสกัดน้ำ, สาร genistein 7-O--rhamnosyl (16)--glucopyranoside และยามาตรฐาน aspirin สามารถยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase-1 (COX-1) ทำให้การสร้างสารที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบได้แก่ พรอสตาแกลนดินลดลง โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 4.11, 4.15, 4.0 และ 4-5 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ โดยสารสกัดน้ำ และเอทานอลของลำต้นเถาวัลย์เปรียงไม่มีผลยับยั้งเอนไซม์ COX-2 แต่ aspirin ยับยั้งเอนไซม์ COX-2 โดยมีค่า IC50 = 9-10 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร จากการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากสารสกัดน้ำ สองชนิดคือ สารกลุ่มกรดฟีนอลิค คือ สาร piscidic acid ซึ่งจากรายงานการวิจัยพบว่ามีฤทธิ์ทำให้หลับ กล่อมประสาท และระงับอาการไอ สารอีกชนิดเป็นสารกลุ่มไอโซฟลาโวนกลัยโคไซด์คือ genistein 7-O--rhamnosyl (16)--glucopyranoside ซึ่งมีรายงานว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สารทั้งสองชนิดยังเป็นองค์ประกอบหลักในสารสกัด 50%เอทานอล (ประไพ และคณะ, 2556)
ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
การทดสอบในหลอดทดลอง ของสารสกัด 50 % เอทานอลจากลำต้นเถาวัลย์เปรียง โดยใช้เม็ดเลือดขาวชนิดโมโนนิวเคลียส (peripheral blood mononuclear cells, PBMC) ที่ได้จากอาสาสมัครปกติ และผู้ติดเชื้อเอชไอวี พบว่าใน PBMC ที่ได้จากอาสาสมัครปกติ สารสกัดมีผลเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิด lymphocyte ที่ความเข้มข้น 10 นาโนกรัม/มล. ถึง 5 ไมโครกรัม/มล. และผลนี้ลดลงเมื่อความเข้มข้นเพิ่มเป็น 100 ไมโครกรัม/มล. สารสกัดเพิ่มการทำงานของ natural killer (NK) cells ในคนปกติ ที่ความเข้มข้น 10 นาโนกรัม/มล. ถึง 10 ไมโครกรัม/มล. เมื่อทดสอบในผู้ติดเชื้อเอชไอวี สารสกัดเพิ่มการทำงานของ natural killer (NK) cells ที่ความเข้มข้น 10 ไมโครกรัม/มล (NK cell จัดเป็นเม็ดเลือดขาวกลุ่มลิมโฟไซต์ มีหน้าที่ทำลายเซลล์อื่นๆทั้งหมดที่มันไม่รู้จักว่าเป็นเซลล์ปกติของร่างกาย) นอกจากนั้นยังมีผลกระตุ้นการหลั่ง interleukin-2 (IL-2) จาก PBMC ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีการกระตุ้นจากระบบภูมิคุ้มกัน (Sriwanthana and Chavalittumrong, 2001)
การศึกษาทางคลินิก:
ฤทธิ์บรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง
การศึกษาประสิทธิผลและผลข้างเคียงของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงเปรียบเทียบกับยามาตรฐานไดโคลฟีแนค (diclofenac) ในการรักษาผู้ป่วยอาการปวดหลังส่วนล่าง 2 กลุ่ม ที่โรงพยาบาลวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว กลุ่มหนึ่งจำนวน 37 ราย รับประทานสารสกัดเถาวัลย์เปรียงบรรจุแคปซูล ขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน และอีกกลุ่มหนึ่งจำนวน 33 ราย รับประทานยาไดโคลฟีแนคชนิดเม็ด ขนาด 25 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน ผลการศึกษาแสดงว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับสารสกัดเถาวัลย์เปรียงมีจำนวนเม็ดเลือดขาวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 7 ของการรักษา แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีรวมทั้งผลข้างเคียงใด ๆ ส่วนผู้ป่วยที่ได้รับยาไดโคลฟีแนคนั้นตรวจไม่พบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่ม มีระดับอาการปวดลดลงอย่างชัดเจนในวันที่ 3 และวันที่ 7 ผลการศึกษานี้บ่งชี้ชัดว่าสารสกัดเถาวัลย์เปรียงที่ให้รับประทานในขนาดวันละ 600 มิลลิ
ราคาต้นละ 200.00 บาท ติดต่อ ปุณณภา งานสำเร็จ โทร. 0616499298 ไอดีไลน์ herbsddd
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 1 เดือน
วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
ขายต้นเถาเอนอ่อน
ช่องทางการติดต่อวรากรสมุนไพรทางไลน์สะดวกที่สุดค่ะ
ไอดีไลน์ herbsddd
QR code https://line.me/ti/p/T-oZ81KZrM
โทร 0629246459,0610236156
ต้องการมาดูสินค้าโทรนัดหมายล่วงหน้านะคะ
ราคาต้นละ 200.00 บาท ติดต่อ ปุณณภา งานสำเร็จ โทร. 0616499298 ไอดีไลน์ herbsddd
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 1 เดือน
วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
ต้นเถาวัลย์เปรียง ขายต้นเถาวัลย์เปรียง ต้นปลูก ความสูง 30-60 ซม. น้ำหนักถุงเพาะ 0.5-1กก/ถุง
ส่งสินค้าแบบอีเอมเอส ค่าส่งต้นไม้ 1-4 ต้น/กล่อง/ ค่าส่ง100 บาท
“เถาวัลย์เปรียง” มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่นได้แก่ ทางอีสานเรียกว่า เครือตาป่า เครือตับปลา เครือเขาหนัง เถาวัลย์เปรียงแดง เถาวัลย์เปรียงขาว , เถาตาปลา พานไสน นครศรีธรรมราชเรียก ย่านเหมาะ มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า จิวเวลไวน์ (Jewel Vine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า เดอริส สแคนเดนส์ (Derris scandens Benth) จัดอยู่ในวงศ์เล็กกูมิโนซี (LEGUMINOSAE) มีถิ่นกำเนิดอยู่ใน ตะวันออกของอินเดีย มาเลเซีย จีน และทางตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย
ต้นเถาวัลย์เปรียง ขายต้นเถาวัลย์เปรียง
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
เถาวัลย์เปรียง จัดเป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็งขนาดใหญ่ เลื้อยได้ไกลถึง 20 เมตร มีกิ่งเหนียว ทนทาน กิ่งแตกเถายืดยาวอย่างรวดเร็ว ลักษณะชอบเลื้อยพาดพันตามต้นไม้ใหญ่ ถ้ามีเถาที่มีลักษณะใหญ่ เถามักจะบิด ชอบอากาศเย็น แต่แสงแดดจัด ทนแล้งได้ดี ปลูกในที่แล้งดอกจะดก แต่จะมีขนาดเล็กกว่าปลูกในที่ชุ่มชื้น ใบ เป็นใบประกอบด้วยใบย่อย 7-9 ใบ ลักษณะเป็นใบกลมและเล็ก คล้ายใบของต้นอัญชัน รูปรีแกมขอบขนาน หรือรูปไข่กลับ ใบหนาแข็ง สีเขียวเข้มเป็นมัน ผิวใบเรียบมัน ขอบเรียบ ปลายแหลมเล็กน้อย ดอก ออกเป็นช่อห้อย ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกมี 5 กลีบ คล้ายดอกถั่ว สีชมพูอ่อนแกมขาว ออกดอกพร้อมกันทั้งต้น จะออกเป็นช่อสีขาวห้อยลง ส่วนกลีบรองกลีบดอกมีสีม่วงดำ ตรงปลายกลีบดอกจะเป็นสีชมพูเรื่อๆ จะออกดกมากในช่วงเดือน กันยายน-พฤศจิกายน และจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆตั้งแต่ตอนเย็น ผล ออกเป็นฝักแบนๆ ภายในจะมีเมล็ดอยู่ประมาณ 2-4 เมล็ด ขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด หรือแยกไหลใต้ดิน
ต้นเถาวัลย์เปรียง ขายต้นเถาวัลย์เปรียง
ประโยชน์ของเถาวัลย์เปรียง
เถา มีรสเฝื่อนเลกน้อย จึงมีสรรพคุณในการใช้เป็นยาถ่ายเสมหะลงสู่ทวารหนัก ถ่ายเส้นและกษัย รักษาเส้นเอ็นขอด รักษาปัสสาวะพิการ ขับปัสสาวะ รักษาโรคบิด โรคไอ โรคหวัด ราก มีสารพวก Flavonol ที่มีชื่อว่า สคาเดอนิน และนันลานิน (scadenin, nallanin) ใช้เป็นยาเบื่อปลา แต่ไม่มีคุณสมบัติฆ่าแมลง ในตำรับยาไทย ใช้เป็นยารักษาอาการไข้ เป็นยาอายุวัฒนะ และขับปัสสาวะ ใช้ในเด็กได้ดี แก้ปวด แก้ไข้ ทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ บางตำรากล่าวว่าทำให้มีกำลังดีแข็งแรงสู้ไม่ถอย
วิธีใช้ตามภูมิปัญญาไทย
- ราก แก้กระษัยเหน็บชา
- เถา ขับปัสสาวะ ถ่ายเส้นเอ็น ใช้เถา นำมาคั่วชงน้ำกินแก้ปวดเมื่อย
- ถ่ายกระษัย แก้เส้นเอ็นขอด แก้เมื่อยขบ ทำให้เส้นหย่อน แก้ไข้ แก้ปัสสาวะพิการ แก้โรคบิด แก้โรคหวัด ถ่ายเสมหะ ขับเสมหะ ถ่ายอุจจาระ ขับระดู บีบมดลูก
สรรพคุณในทางเป็นยาสมุนไพร
1. ขับโลหิตเสียของสตรี วิธีใช้ ใช้เถาวัลย์ทั้งห้าสดๆต้มกับน้ำ นำน้ำที่ได้มาใช้ดื่มแทนน้ำ
2. ทำให้มดลูกเข้าอู่ วิธีใช้ ให้นำเถาสดมาทุบให้ยุ่ย แล้ววางทาบลงบนหน้าท้องนำหม้อเกลือที่ร้อนมานาบลงไปบนเถาวัลย์เปรียง จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
3.รักษาโรคปวดหลังและปวดตามข้อได้ ซึ่งหลังจากที่ใช้เวลาทำการทดลองนานเกือบ 10 ปี ขณะนี้ได้ผ่านการทดสอบทางคลินิกในคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งระยะที่ 1 และ 2 ให้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ โดยให้ยาแก่อาสาสมัครครั้งละ 1 แคปซูล (200 มก./ แคปซูล) หลังอาหารวันละ 2 ครั้ง นาน 2 เดือน ร่างกายสามารถดูดซึมยานี้ได้ดี ไม่มีความเป็นพิษหรือผลข้างเคียง ทั้งยังช่วงเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ต้นเถาวัลย์เปรียง ขายต้นเถาวัลย์เปรียง
เถาวัลย์เปรียงเป็นยาสมุนไพรที่คนไทยรู้จักการใช้ประโยชน์มาเนิ่นนาน เป็นสมุนไพรที่พบทั่วไปทุกภาค สรรพคุณของยาที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์คือแก้อาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว บำรุงกำลัง จึงมักนำมาต้มดื่ม หรือนำมาดองเหล้า คนเฒ่าคนแก่ คนที่ทำงานแบกหามหนัก หรือชาวไร่ชาวนา จึงมักมีเถาวัลย์เปรียงติดบ้านไว้ต้ม แต่ส่วนมากมักจะเน้นทางยาดองเหล้ามากกว่าเพื่อใช้แก้ไขอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการวิจัยสมุนไพรตัวนี้จนสำเร็จผล และพบว่า สรรพคุณตามที่วิจัยพบนั้นสอดรับกับภูมิปัญญาหมอพื้นบ้านที่ใช้ ประโยชน์ในการแก้ปวดเมื่อย แก้การอักเสบของกล้ามเนื้อ ผลการทดลองระบุว่า สารสกัดจากลำต้นมีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการปวด ต้านการอักเสบ สามารถใช้แทนยาแก้อักเสบแผนปัจจุบันได้ ที่สำคัญไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบันที่มีสารสเตียรอยด์ ถือเป็นยาสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง
ส่วนใหญ่นิยมใช้เถาวัลย์เปรียงกินคู่กันกับเถาเอ็นอ่อน เพื่อเสริมฤทธิ์กัน และใส่สมอไทยไปด้วยเพื่อป้องกันอาการจากไต กรณีที่จะกินติดต่อกันนานๆ
การศึกษาทางพิษวิทยา:
เถามีสารที่มีฤทธิ์เช่นเดียวกับฮอร์โมนเพศหญิง จึงควรระวังถ้าจะรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
การทดสอบพิษเฉียบพลันของสารสกัดลำต้นด้วยเอทานอล 50% โดยให้หนูกินในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (คิดเป็น 6,250 เท่า เปรียบเทียบกับขนาดรักษาในคน) และให้โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนู ในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตรวจไม่พบอาการเป็นพิษ
การศึกษาพิษเรื้อรัง (6 เดือน) ของสารสกัดด้วย 50%เอทานอล ในหนู โดยให้สารสกัด เทียบเท่ากับผงเถาวัลย์เปรียงแห้ง คิดเป็น 100 เท่าของขนาดที่ใช้กับคนต่อวัน พบว่าไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโลหิตวิทยา ชีวเคมีของซีรั่ม จุลพยาธิของอวัยวะภายใน และไม่พบความผิดปกติใดๆ
ข้อเสนอแนะ:
เถาวัลย์เปรียงเป็นยาสมุนไพรที่ใช้แก้กษัย คืออาการปัสสาวะขุ่นข้น ปวด หลังปวดเอว
การรับประทานยาตำรับนี้อาจทำให้ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็น ประโยชน์ต่อผู้ป่วยต่อมลูกหมากโตด้วย
คนโบราณนิยมใช้เถาวัลย์เปรียงในการรักษาอาการตกขาว(ชนิดที่ไม่มี อาการคันไม่มีกลิ่น ไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียว) ซึ่งอาจเนื่องมาจากเถาวัลย์ เปรียงมีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน
วิจัย "เถาวัลย์เปรียงแคปซูล" เปรียบเทียบยาแผนปัจจุบัน ใช้รักษาอาการปวดหลังและอาการอักเสบจากโรคข้อเข่าเสื่อมพบ มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเทียบเท่ากับ "ยาไดโคลฟีแนค" ซึ่งเป็นยาบรรเทาอาการปวดและ "นาโปรเซน" ซึ่งเป็นยาต้านการอักเสบ
ต้นเถาวัลย์เปรียง ขายต้นเถาวัลย์เปรียง
ราคาต้นละ 200.00 บาท ติดต่อ ปุณณภา งานสำเร็จ โทร. 0616499298 ไอดีไลน์ herbsddd
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 1 เดือน