ต้นสะเดาดำ

ขายต้นสะเดาดำ ขายต้นปลูก ความสูง 30-50 ซม. น้ำหนักถุงเพาะ 0.5-1กก/ถุงส่งสินค้าแบบอีเอมเอส ค่าส่งต้นไม้ 1-4 ต้น/กล่อง/ ค่าส่ง100 บาท
สะเดาดำ ยอดอ่อนและดอกอ่อนของ "สะเดาดำ" กินอร่อยได้เหมือนกับยอดอ่อนและดอกอ่อนของสะเดาเขียวทุกอย่าง จะแตกต่างกันที่สีของใบและดอก "สะเดาดำ" จะเป็นสีน้ำตาลคล้ำเกือบดำ ดอกเป็นสีชมพูอมม่วงสวยงามมาก งานวิจัยระบุดอกของ "สะเดาดำ" มีสารให้ประโยชน์ กินแล้วช่วยต้านมะเร็งได้ สามารถปลูกเป็นไม้ประดับและไม้กินยอดในต้นเดียวกัน
สะเดาดำ มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับสะเดาเขียวทุกอย่าง เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-20 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลเทาอมน้ำตาลคล้ำ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ใบย่อย 7-9 คู่ ใบเป็นรูปใบหอกโค้ง ปลายเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบจักไม่เป็นระเบียบ ใบแก่ และยอดอ่อนเป็นสีน้ำตาลคล้ำเกือบดำ ยอดอ่อนและดอกอ่อนลวกรับประทานกับปลาดุกย่าง น้ำปลาหวาน รสชาติขมปนมันอร่อยเหมือนกับสะเดาเขียวทุกอย่าง
ดอก ออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายยอด มีดอกย่อยจำนวนมาก มีกลีบดอก 5 กลีบ เป็นสีชมพูอมม่วง มีเกสรตัวผู้สีเหลืองอมส้มจำนวน 10 อัน ดอกบานเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. เวลามีดอกตามฤดูกาลและปล่อยให้ดอกบานไม่เก็บรับประทาน จะดูสวยงามน่ารักมาก "ผล" รูปกลมรี ผิวผลบาง มีเนื้อและฉ่ำน้ำ ผลแก่เป็นสีเหลือง มีเมล็ดจำนวนมาก ดอกออกช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-พฤษภาคม ปีถัดไป ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง และเสียบยอด
สารสำคัญที่มีในสะเดาดำ
1. แอนโทไซยานิน เป็นสารที่มักมีอยู่ในพืชที่มีสีม่วงออกดำ เช่น ดอกอัญชัน มะเขือม่วง บลูเบอร์รี่ กะหล่ำม่วง ข้าวเหนียวดำ หรือข้าวกล่ำ ชมพู่ม่าเหมี่ยว รวมทั้งสะเดาดำ
แอนโทไซยานินมีคุณสมบัติด้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งช่วยขยายเส้นเลือดให้การหมุนเวียนของกระแสโลหิตดีขึ้น ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ร่างกาย ช่วยลบล้างสารก่อมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจและอัมพาต แต่ขอเน้นย้ำว่า คุณสมบัติของแอนโทไซยานิน “ช่วยชะลอ ช่วยยับยั้ง ช่วยลบล้าง” มิใช่ “ช่วยรักษาหรือแก้”
2. อะซาดิแรคติน เป็นสารที่พบมากในเมล็ดสะเดา มีฤทธิ์ในการป้องกันกำจัดแมลงได้หลายรูปแบบ คือ เป็นสารฆ่าแมลง สารไล่แมลง ทำให้แมลงไม่ชอบกินอาหาร ทำให้การเจริญเติบโตของแมลงผิดปกติ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลง มีผลทำให้หนอนไม่สามารถลอกคราบเจริญเติบโตต่อไป หนอนจะตายในระยะลอกคราบ เพราะสารออกฤทธิ์มีผลต่อการสร้างฮอร์โมน ซึ่งทำให้การผลิตไข่และปริมาณการฟักไข่ลดน้อยลง แต่สารอะซาดิแรคตินจะมีอันตรายน้อยต่อมนุษย์ สัตว์ ศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูพืชและสภาพแวดล้อม
3. นิมบิดิน เป็นสาระสำคัญที่ทำให้สะเดามีรสขม พบมากในยอดอ่อนและดอกสะเดา สามารถช่วยในการเจริญอาหารได้ เพราะสารตัวนี้จะไปกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยให้เพิ่มปริมาณมากขึ้น จึงทำให้รับประทานอาหารได้มาก
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 23 Feb 22 06:58