ค้นหาสินค้า

ข้อมูลติดต่อ วิธีการชำระเงิน แผนที่ร้าน ไร่แก่นตะวัน

ข้อมูลติดต่อ

ชื่อร้าน/สวน:
ไร่แก่นตะวัน
ชื่อติดต่อ:
มัสยา ปุ๊ดแค
โทรศัพท์:
0979205613
มือถือ:
0979205613
ไอดีไลน์:
ลิงค์ร้าน/สวน:
เว็บไซต์:
ที่อยู่:
อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน

วิธีการชำระเงิน

ประโยชน์ของแก่นตะวัน &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>1. ลดความอ้วน &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp;อินนูลิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของหัวแก่นตะวัน เป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ (Soluble Fiber) ซึ่งร่างกายของเราไม่มีเอนไซม์ที่จะย่อยได้ &nbsp; &nbsp;<br/>- ใยอาหารที่ละลายน้ำได้ของอินนูลิน เมื่ออยู่ในกระเพาะอาหาร &nbsp; จะมีลักษณะเป็นเจล &nbsp;ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น ( delay gastric emptying time) &nbsp;จึงรู้สึกอิ่ม ทานอาหารได้น้อยลง &nbsp; &nbsp;<br/>- อินนูลินซึ่งเป็นใยอาหารจะดูดซับน้ำตาลและไขมันในอาหารที่เราทานเข้าไป &nbsp; &nbsp;ทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลและไขมันในระบบทางเดินอาหารได้น้อยลง ร่างกายจึงได้รับพลังงานน้อยลง &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>2. ลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน &nbsp; &nbsp;<br/>- อินนูลิน จะดูดซับน้ำและน้ำตาล จนมีลักษณะเป็นเจล ทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้าลงและน้อยลง &nbsp; &nbsp;<br/>- ร่างกายของเรา ไม่มีเอนไซม์ที่จะย่อยอินนูลิน ดังนั้นเมื่อเราทานหัวแก่นตะวัน &nbsp;เข้าไป จึงไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด บวกกับเมื่อทานแก่นตะวันจะรู้สึกอิ่มจากคุณสมบัติการเป็นใยอาหารของอินนูลิน ทำให้ทานอาหารอย่างอื่นได้น้อยลง ทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลน้อยลง &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>3. ลดคอเลสเตอรอลในเลือด &nbsp; &nbsp;<br/>- อินนูลินดูดซับไขมันในอาหารที่เราทานเข้าไป ทำให้ร่างกายดูดซึมไขมันได้น้อยลง &nbsp; &nbsp;<br/>- น้ำดีซึ่งผลิตจากตับ มีคอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบ มีบทบาทในกระบวนการย่อยไขมันในลำไส้เล็ก ซึ่งปกติจะถูกร่างกายดูดซึมและนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก &nbsp;แต่เมื่อมันถูกดูดซึมไปโดยใยอาหารละลายน้ำ (อินนูลิน) มันก็จะกลายเป็นของเสียถูกขับออกจากร่างกาย ทำให้ตับต้องผลิตน้ำดีใหม่ โดยการดึงคอเลสเตอรอลในเลือดมาผลิตเป็นน้ำดี &nbsp; ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดจึงลดลง &nbsp; &nbsp;<br/>- กรดไขมันสายสั้น (Short-chain fatty acid) ช่วยยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอล โดยตับ &nbsp; &nbsp;<br/>กรดไขมันสายสั้น (Short-chain fatty acid) เช่น โปรไพโอนิก แอซิด (Propionic acid) เป็นผลลัพธ์จากกระบวนการหมัก (Fermentation) &nbsp; &nbsp; ซึ่งเกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่ โดยจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ &nbsp;เช่น แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) &nbsp;ไบฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) ย่อยสลายใยอาหารที่ละลายน้ำได้ (อินนูลินจากหัวแก่นตะวัน) &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>4. ลดความเสี่ยงความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และหลอดเลือด &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;มีการศึกษาผลของ Fructooligosaccharide (FOS) ในผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในเลือดสูงโดยให้บริโภค FOS เป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ พบว่า ความดันโลหิตลดลง โดยเฉลี่ย 6 mmHg และยังพบว่าความดันโลหิตแปรผกผันกับจำนวนของBifidobacteria ในลำไส้ (Bifidobacteria มากขึ้น ความดันโลหิตลดลง) ซึ่งจากหลายๆการศึกษาพบว่า อินนูลินและ FOS ทำให้ Bifidobacteria มีจำนวนมากขึ้น นอกจากนี้ใน100กรัมของหัวแก่นตะวันมีโปแตสเซี่ยมอยู่ถึง429มิลลิกรัม คิดเป็นร้อยละ9 ของความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โปแตสเซี่ยมเป็นมิตรกับหัวใจโดยการยับยั้งการทำงานของเกลือโซเดียม ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;โรคหัวใจที่พบบ่อย เกิดจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน ทำให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด &nbsp;ซึ่งเกี่ยวข้องกับระดับคอเลสเตอรอล และโฮโมซิสเตอีน(homocysteine) &nbsp;ในเลือด สำหรับคอเลสเตอรอลเป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปอยู่แล้ว &nbsp;และเราก็ทราบว่าแก่นตะวันช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ดังนั้นจึงลดความเสี่ยงภาวะหัวใจขาดเลือด &nbsp; แต่สำหรับโฮโมซิสเตอีน(homocysteine) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด ที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคอเลสเตอรอล &nbsp;ยังเป็นที่รู้จักกันน้อยมาก &nbsp; ดูรายละเอียด เกี่ยวกับโฮโมซิสเตอีนได้ ที่นี่ &nbsp;มีรายงานการศึกษาซึ่งระบุว่าแก่นตะวันทำให้ระดับโฮโมซิสเตอีนในเลือดลดลง ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจขาดเลือดน้อยลง &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>5. ลดอาการท้องผูก &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ด้วยคุณสมบัติของใยอาหาร ซึ่งจะเพิ่มน้ำหนักของอุจจาระ ทำให้อุจจาระชุ่มน้ำ นอกจากนี้ กรดไขมันสายสั้น (Short-chain fatty acid) &nbsp;ซึ่งผลิตโดยไบฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) จะช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>6. ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ &nbsp; &nbsp;<br/>- การขับถ่ายที่ดีขึ้น ช่วยลดการสะสมของเสีย หรือสารพิษก่อมะเร็งในลำไส้ใหญ่ &nbsp; &nbsp;<br/>- อินนูลิน และ FOS จากแก่นตะวันเป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น Lactobacillus , Bifidobacteria ทำให้จุลินทรีย์ดังกล่าว มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและทำให้ภายในลำไส้ใหญ่มีสภาวะความเป็นกรด ซึ่งจะทำให้จุลินทรีย์ก่อโรค เช่น Clostridium , E.coli มีจำนวนน้อยลง (จุลินทรีย์ก่อโรคในลำไส้ไม่ชอบภาวะเป็นกรด) จุลินทรีย์ก่อโรคเหล่านี้ผลิตสารพิษ (Toxic metabolites) &nbsp;ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง เช่น Nitrosoamines , Indole ดังนั้น เมื่อจุลินทรีย์ก่อโรคน้อยลง สารก่อมะเร็งดังกล่าวก็ลดน้อยลงด้วย &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>7. เพิ่มการดูดซึมแคลเซียม &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;สภาวะความเป็นกรดในลำไส้ใหญ่ จากการได้รับอินนูลินและFOS ทำให้การดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายเพิ่มมากขึ้น ลดความเสี่ยงโรคกระดูก &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>8. เพิ่มการผลิตวิตามินบางชนิด &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;Bifidobacteria สามารถผลิตวิตามิน B1 , B2 , B6 , B12 , nicotinic acid และ folic acid &nbsp;อินนูลินและ FOS จากแก่นตะวันทำให้จำนวน Bifidobacteria มากขึ้น ร่างกายจะได้รับวิตามินเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามิน B6 , B12 และnfolic acid มีความสำคัญในการทำให้ระดับโฮโมซิสเตอีน(homocysteine)ลดลง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงภาวะหัวใจขาดเลือด &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>9. หัวแก่นตะวัน ใช้เสริมในอาหารสัตว์ &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; มีผลต่อการเจริญเติบโต ลดจุลินทรีย์ที่เป็นโทษในระบบทางเดินอาหาร สร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ลดการใช้สารเคมีปฏิชีวนะและมูลสัตว์มีกลิ่นเหม็นน้อยลง &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>10. หัวสดแก่นตะวัน 1 ตัน สามารถผลิตเอทานอลได้ 80-100 ลิตร &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;นำไปผสมกับเบนซิน เพื่อผลิตแก๊ลโซฮอล์ จึงจัดเป็นพืชพลังงานทดแทน &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>11. ดอกแก่นตะวัน มีสีเหลืองสด สวยงามคล้ายดอกบัวตอง &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ถ้าปลูกในแปลงขนาดใหญ่ สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวทุ่งแก่นตะวันได้ &nbsp; &nbsp;<br/> &nbsp; &nbsp;<br/>ราคาปลีกโลละ 130 บาท (ไม่รวมค่าส่ง) บาท เบอร์ติดต่อ &nbsp;097-9205613 &nbsp; &nbsp;<br/>

แผนที่ร้าน/สวน