ร้าน ว.เกษตร จันทบุรี | เมืองจันทบุรี จันทบุรี
ยิปซัม (Gypsum) หรือแร่เกลือจืด
มีสูตรทางเคมีคือ CaSO42H2O ซึ่งประกอบด้วยธาตุอาหารหลักสองชนิดคือ แคลเซียม (Ca) และกำมะถัน (S) ในรูปของซัลเฟต (SO4)
โดยทั่วไปยิปซัมทางการเกษตรจะมีปริมาณแคลเซียม (CaO) ประมาณ 22-32.6% และกำมะถัน (SO3) ประมาณ 17-46.5% นอกจากนี้ ยังมีน้ำ (H2O) เป็นส่วนประกอบประมาณ 20.9%
ข้อมูลจำเพาะของธาตุอาหารในยิปซัม:
แคลเซียม (Ca): ประมาณ 22-32.6%
กำมะถัน (S): ประมาณ 17-46.5%
น้ำ (H2O): ประมาณ 20.9%
ประโยชน์ของยิปซัมทางการเกษตร:
เป็นแหล่งธาตุอาหารรอง:
ยิปซัมเป็นแหล่งของแคลเซียมและกำมะถัน ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช
ปรับปรุงดิน:
ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดีขึ้น
ลดความเป็นกรดของดิน:
ช่วยลดความเป็นกรดของดิน และปรับ pH ของดินให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช
ลดความเป็นพิษของอลูมิเนียมและโบรอน:
ในดินที่เป็นกรด ยิปซัมสามารถช่วยลดความเป็นพิษของอลูมิเนียมและโบรอนได้
เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร:
ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารหลักได้ดีขึ้น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
ลดความเค็มของดิน:
ช่วยลดความเค็มของดินได้ เนื่องจากแคลเซียมในยิปซัมสามารถเข้าไปแทนที่โซเดียมในดินได้
ข้อควรพิจารณา:
ควรเลือกใช้ยิปซัมให้เหมาะสมกับชนิดของดินและสภาพพื้นที่
การใช้ยิปซัมควรพิจารณาจากค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ในดินที่เป็นกรดจัด ควรปรับสภาพดินด้วยวัสดุปูนประเภทอื่นก่อนการใช้ยิปซัม
----------------------------
วิธีใช้ยิปซั่ม
----------------------------
การใช้ยิปซัมกับผลไม้โดยทั่วไปมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช โดยยิปซัมจะช่วยลดความเป็นด่างของดิน เพิ่มแคลเซียมและกำมะถัน ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับผลไม้ ปริมาณการใช้ยิปซัมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้และสภาพดิน โดยทั่วไปอาจใช้ยิปซัมในปริมาณ 2-4 กิโลกรัมต่อต้น
วิธีการใช้ยิปซัมกับผลไม้:
1. เตรียมดิน:
คลุกเคล้าหรือโรยยิปซัมรอบทรงพุ่มของต้นไม้
2. ใส่ยิปซัม:
ใส่ยิปซัมลงในดินบริเวณรอบโคนต้น โดยควรใส่ในช่วงที่ต้นไม้กำลังเจริญเติบโตหรือก่อนที่จะเริ่มออกดอกออกผล (ก่อนออกดอก หลังดอกบาน บำรุงต้นเล็กหรือบำรุงหลังเก็บเกี่ยว)
3. รดน้ำ:
รดน้ำให้ชุ่มหลังจากใส่ยิปซัมเพื่อให้ยิปซัมละลายและซึมลงสู่ดินได้ดีขึ้น
4. ใส่ปุ๋ย:
สามารถใส่ยิปซัมควบคู่กับการใส่ปุ๋ยได้ โดยยิปซัมจะช่วยลดการสูญเสียธาตุอาหารจากปุ๋ยและเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงดิน
5. สังเกตและปรับ:
สังเกตการเจริญเติบโตของต้นไม้ หากพบว่าต้นไม้แสดงอาการขาดธาตุอาหาร หรือดินมีสภาพไม่เหมาะสม ควรปรับปริมาณการใส่ยิปซัมและปรับปรุงการจัดการดินตามความเหมาะสม
ปริมาณการใช้ยิปซัม:
ทุเรียน:
ใส่ยิปซัม 1-3 กิโลกรัมต่อต้น ตามขนาดต้น
พืชอื่นๆ:
ปริมาณการใช้ยิปซัมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและสภาพดิน ควรศึกษาข้อมูลเฉพาะสำหรับพืชแต่ละชนิด
ดินทั่วไป:
หากต้องการปรับปรุงดินทั่วไป อาจใช้ยิปซัมในอัตรา 200-500 กิโลกรัมต่อไร่
---------------------------
ยิปซั่มเกษตรสามารถผสมกับอะไรได้บ้าง:
เพื่อให้ได้ผลดีในการใช้กับพืชหรือปรับปรุงดิน สามารถผสมกับวัสดุต่างๆ ได้ดังนี้:
---
วัสดุที่ผสมได้และเหมาะสม
1. ปุ๋ยอินทรีย์
มูลวัว มูลไก่ มูลสุกร มูลค้างคาว ฯลฯ
ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ ส่วนยิปซั่มช่วยปรับดินและให้แคลเซียม-กำมะถัน
2. โดโลไมต์ (Dolomite) หรือปูนมาร์ล
ใช้ร่วมกันในพื้นที่ดินเปรี้ยว (แต่ควรระวังปริมาณ เพราะอาจซ้ำซ้อนกันเรื่องแคลเซียม)
3. ไตรโคเดอร์มา
เชื้อราเพื่อควบคุมโรครากเน่า โคนเน่า
ผสมยิปซั่มก่อนใช้โรยรอบโคนต้นได้ (แต่ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีรุนแรง)
4. ฮิวมิคแอซิด
เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารพืช
ช่วยให้ยิปซั่มละลายและปลดปล่อยแคลเซียมได้ดีขึ้น
5. อะมิโนแอซิด / ไคโตซาน
เป็นสารเร่งการเจริญเติบโต และเพิ่มความแข็งแรงของพืช
ผสมในสูตรปุ๋ยหรือผสมน้ำราดร่วมกันได้
6. ทรายหรือแกลบดิบ
ใช้เป็นวัสดุผสมเพื่อโรยแห้งในแปลง หรือผสมเพื่อให้โรยได้ง่ายและสม่ำเสมอ
---
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการผสม
ปูนขาว หรือปูนเผา (CaO): เพราะมีฤทธิ์เป็นด่างจัด อาจรบกวนการทำงานของยิปซั่ม
สารเคมีที่มีโซเดียมสูง: เพราะยิปซั่มใช้ลดโซเดียม ถ้าผสมกลับเพิ่มอาจไม่ได้ผล
---
สรุป:
ยิปซั่มเกษตรผสมกับ ปุ๋ยอินทรีย์ + ฮิวมิค + ไตรโคเดอร์มา + อะมิโน/ไคโตซาน ได้ดี เหมาะสำหรับการทำสูตรปุ๋ยอินทรีย์ที่ปรับปรุงดิน และเพิ่มธาตุอาหารพืชแบบครบวงจร
หากคุณต้องการให้ช่วยออกแบบ สูตรผสมยิปซั่มแบบใช้งานจริง ก็สามารถบอกวัตถุดิบที่คุณมีได้เลยครับ ผมจะจัดสูตรให้ทันที.
--------------------------------
ยิปซั่มเกษตร หรือแร่ยิปซัมในภาคการเกษตร
มีคุณสมบัติเป็นแหล่งธาตุอาหารรองที่สำคัญสำหรับพืช เช่น แคลเซียมและกำมะถัน ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดีขึ้น ช่วยลดความเป็นกรดของดิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารของพืช การใช้ยิปซัมเกษตรอย่างถูกต้องจะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ลดการใช้ปุ๋ย และเพิ่มผลผลิต
คุณสมบัติของยิปซั่มเกษตร:
เป็นแหล่งธาตุอาหารรอง:
ยิปซั่มเป็นแหล่งของแคลเซียม (Ca) และกำมะถัน (S) ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
ปรับปรุงโครงสร้างดิน:
ช่วยให้ดินร่วนซุย ลดความแน่นทึบของดิน ทำให้รากพืชสามารถแผ่ขยายและดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น
ปรับปรุงสมบัติทางเคมีของดิน:
ช่วยลดความเป็นกรดของดิน (ปรับ pH) ทำให้พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารหลักได้ดีขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ:
ช่วยให้ดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ลดการสูญเสียน้ำ และลดการชะล้างหน้าดิน
ลดการสูญเสียธาตุอาหาร:
ช่วยป้องกันการสูญเสียธาตุอาหารในดิน เช่น ฟอสฟอรัสและไนโตรเจน
ช่วยให้พืชแข็งแรง:
ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์พืช ทำให้พืชทนทานต่อโรคและแมลง
ประโยชน์ของยิปซั่มเกษตร:
เพิ่มผลผลิต:
ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้น
ลดต้นทุนการผลิต:
ช่วยลดการใช้ปุ๋ยและสารเคมีอื่นๆ
ปรับปรุงคุณภาพผลผลิต:
ช่วยให้พืชมีคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น ขนาด ผล รสชาติ
แก้ไขปัญหาดิน:
ช่วยแก้ปัญหาดินเค็ม ดินเป็นกรด ดินเหนียว หรือดินที่มีปัญหาการระบายน้ำ
รักษาสิ่งแวดล้อม:
ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี ลดการชะล้างสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำ
วิธีใช้ยิปซั่มเกษตร:
หว่านโรยบนดิน:
หว่านยิปซั่มให้ทั่วแปลงปลูกก่อนการเพาะปลูก หรือหว่านระหว่างแถวพืช
ผสมน้ำราด:
ละลายยิปซั่มในน้ำแล้วนำไปราดรดแปลงปลูก
ผสมปุ๋ย:
ผสมยิปซั่มกับปุ๋ยอื่นๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของปุ๋ยและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
ใช้ร่วมกับปุ๋ยหมัก:
ช่วยเสริมประสิทธิภาพของปุ๋ยหมักและปรับปรุงคุณภาพของดิน
อัตราการใช้ยิปซั่มเกษตร:
ดินทั่วไป: 50-100 กิโลกรัมต่อไร่
ดินเค็ม: 100-200 กิโลกรัมต่อไร่
ดินเหนียว: 100-200 กิโลกรัมต่อไร่
ดินกรด: 50-100 กิโลกรัมต่อไร่
ปริมาณการใช้:
ปริมาณการใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของดิน สภาพพื้นที่ และชนิดของพืชที่ปลูก ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ผลิตยิปซั่ม
ระยะเวลาการใช้:
สามารถใช้ได้ตลอดฤดูปลูก โดยเฉพาะในช่วงก่อนการเพาะปลูก และช่วงที่พืชต้องการธาตุอาหารสูง
ราคากระสอบละ 200.00 บาท ติดต่อ ปุ๋ยแบล็คแราวน์ โทร. 0931649693 0931649693
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 2 ปี 8 เดือน
ร้าน ว.เกษตร จันทบุรี | เมืองจันทบุรี จันทบุรี
ยิปซัม (Gypsum) หรือแร่เกลือจืด
มีสูตรทางเคมีคือ CaSO42H2O ซึ่งประกอบด้วยธาตุอาหารหลักสองชนิดคือ แคลเซียม (Ca) และกำมะถัน (S) ในรูปของซัลเฟต (SO4)
โดยทั่วไปยิปซัมทางการเกษตรจะมีปริมาณแคลเซียม (CaO) ประมาณ 22-32.6% และกำมะถัน (SO3) ประมาณ 17-46.5% นอกจากนี้ ยังมีน้ำ (H2O) เป็นส่วนประกอบประมาณ 20.9%
ข้อมูลจำเพาะของธาตุอาหารในยิปซัม:
แคลเซียม (Ca): ประมาณ 22-32.6%
กำมะถัน (S): ประมาณ 17-46.5%
น้ำ (H2O): ประมาณ 20.9%
ประโยชน์ของยิปซัมทางการเกษตร:
เป็นแหล่งธาตุอาหารรอง:
ยิปซัมเป็นแหล่งของแคลเซียมและกำมะถัน ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช
ปรับปรุงดิน:
ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดีขึ้น
ลดความเป็นกรดของดิน:
ช่วยลดความเป็นกรดของดิน และปรับ pH ของดินให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช
ลดความเป็นพิษของอลูมิเนียมและโบรอน:
ในดินที่เป็นกรด ยิปซัมสามารถช่วยลดความเป็นพิษของอลูมิเนียมและโบรอนได้
เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร:
ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารหลักได้ดีขึ้น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
ลดความเค็มของดิน:
ช่วยลดความเค็มของดินได้ เนื่องจากแคลเซียมในยิปซัมสามารถเข้าไปแทนที่โซเดียมในดินได้
ข้อควรพิจารณา:
ควรเลือกใช้ยิปซัมให้เหมาะสมกับชนิดของดินและสภาพพื้นที่
การใช้ยิปซัมควรพิจารณาจากค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ในดินที่เป็นกรดจัด ควรปรับสภาพดินด้วยวัสดุปูนประเภทอื่นก่อนการใช้ยิปซัม
----------------------------
วิธีใช้ยิปซั่ม
----------------------------
การใช้ยิปซัมกับผลไม้โดยทั่วไปมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช โดยยิปซัมจะช่วยลดความเป็นด่างของดิน เพิ่มแคลเซียมและกำมะถัน ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับผลไม้ ปริมาณการใช้ยิปซัมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้และสภาพดิน โดยทั่วไปอาจใช้ยิปซัมในปริมาณ 2-4 กิโลกรัมต่อต้น
วิธีการใช้ยิปซัมกับผลไม้:
1. เตรียมดิน:
คลุกเคล้าหรือโรยยิปซัมรอบทรงพุ่มของต้นไม้
2. ใส่ยิปซัม:
ใส่ยิปซัมลงในดินบริเวณรอบโคนต้น โดยควรใส่ในช่วงที่ต้นไม้กำลังเจริญเติบโตหรือก่อนที่จะเริ่มออกดอกออกผล (ก่อนออกดอก หลังดอกบาน บำรุงต้นเล็กหรือบำรุงหลังเก็บเกี่ยว)
3. รดน้ำ:
รดน้ำให้ชุ่มหลังจากใส่ยิปซัมเพื่อให้ยิปซัมละลายและซึมลงสู่ดินได้ดีขึ้น
4. ใส่ปุ๋ย:
สามารถใส่ยิปซัมควบคู่กับการใส่ปุ๋ยได้ โดยยิปซัมจะช่วยลดการสูญเสียธาตุอาหารจากปุ๋ยและเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงดิน
5. สังเกตและปรับ:
สังเกตการเจริญเติบโตของต้นไม้ หากพบว่าต้นไม้แสดงอาการขาดธาตุอาหาร หรือดินมีสภาพไม่เหมาะสม ควรปรับปริมาณการใส่ยิปซัมและปรับปรุงการจัดการดินตามความเหมาะสม
ปริมาณการใช้ยิปซัม:
ทุเรียน:
ใส่ยิปซัม 1-3 กิโลกรัมต่อต้น ตามขนาดต้น
พืชอื่นๆ:
ปริมาณการใช้ยิปซัมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและสภาพดิน ควรศึกษาข้อมูลเฉพาะสำหรับพืชแต่ละชนิด
ดินทั่วไป:
หากต้องการปรับปรุงดินทั่วไป อาจใช้ยิปซัมในอัตรา 200-500 กิโลกรัมต่อไร่
---------------------------
ยิปซั่มเกษตรสามารถผสมกับอะไรได้บ้าง:
เพื่อให้ได้ผลดีในการใช้กับพืชหรือปรับปรุงดิน สามารถผสมกับวัสดุต่างๆ ได้ดังนี้:
---
วัสดุที่ผสมได้และเหมาะสม
1. ปุ๋ยอินทรีย์
มูลวัว มูลไก่ มูลสุกร มูลค้างคาว ฯลฯ
ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ ส่วนยิปซั่มช่วยปรับดินและให้แคลเซียม-กำมะถัน
2. โดโลไมต์ (Dolomite) หรือปูนมาร์ล
ใช้ร่วมกันในพื้นที่ดินเปรี้ยว (แต่ควรระวังปริมาณ เพราะอาจซ้ำซ้อนกันเรื่องแคลเซียม)
3. ไตรโคเดอร์มา
เชื้อราเพื่อควบคุมโรครากเน่า โคนเน่า
ผสมยิปซั่มก่อนใช้โรยรอบโคนต้นได้ (แต่ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีรุนแรง)
4. ฮิวมิคแอซิด
เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารพืช
ช่วยให้ยิปซั่มละลายและปลดปล่อยแคลเซียมได้ดีขึ้น
5. อะมิโนแอซิด / ไคโตซาน
เป็นสารเร่งการเจริญเติบโต และเพิ่มความแข็งแรงของพืช
ผสมในสูตรปุ๋ยหรือผสมน้ำราดร่วมกันได้
6. ทรายหรือแกลบดิบ
ใช้เป็นวัสดุผสมเพื่อโรยแห้งในแปลง หรือผสมเพื่อให้โรยได้ง่ายและสม่ำเสมอ
---
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการผสม
ปูนขาว หรือปูนเผา (CaO): เพราะมีฤทธิ์เป็นด่างจัด อาจรบกวนการทำงานของยิปซั่ม
สารเคมีที่มีโซเดียมสูง: เพราะยิปซั่มใช้ลดโซเดียม ถ้าผสมกลับเพิ่มอาจไม่ได้ผล
---
สรุป:
ยิปซั่มเกษตรผสมกับ ปุ๋ยอินทรีย์ + ฮิวมิค + ไตรโคเดอร์มา + อะมิโน/ไคโตซาน ได้ดี เหมาะสำหรับการทำสูตรปุ๋ยอินทรีย์ที่ปรับปรุงดิน และเพิ่มธาตุอาหารพืชแบบครบวงจร
หากคุณต้องการให้ช่วยออกแบบ สูตรผสมยิปซั่มแบบใช้งานจริง ก็สามารถบอกวัตถุดิบที่คุณมีได้เลยครับ ผมจะจัดสูตรให้ทันที.
--------------------------------
ยิปซั่มเกษตร หรือแร่ยิปซัมในภาคการเกษตร
มีคุณสมบัติเป็นแหล่งธาตุอาหารรองที่สำคัญสำหรับพืช เช่น แคลเซียมและกำมะถัน ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดีขึ้น ช่วยลดความเป็นกรดของดิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารของพืช การใช้ยิปซัมเกษตรอย่างถูกต้องจะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ลดการใช้ปุ๋ย และเพิ่มผลผลิต
คุณสมบัติของยิปซั่มเกษตร:
เป็นแหล่งธาตุอาหารรอง:
ยิปซั่มเป็นแหล่งของแคลเซียม (Ca) และกำมะถัน (S) ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
ปรับปรุงโครงสร้างดิน:
ช่วยให้ดินร่วนซุย ลดความแน่นทึบของดิน ทำให้รากพืชสามารถแผ่ขยายและดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น
ปรับปรุงสมบัติทางเคมีของดิน:
ช่วยลดความเป็นกรดของดิน (ปรับ pH) ทำให้พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารหลักได้ดีขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ:
ช่วยให้ดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ลดการสูญเสียน้ำ และลดการชะล้างหน้าดิน
ลดการสูญเสียธาตุอาหาร:
ช่วยป้องกันการสูญเสียธาตุอาหารในดิน เช่น ฟอสฟอรัสและไนโตรเจน
ช่วยให้พืชแข็งแรง:
ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์พืช ทำให้พืชทนทานต่อโรคและแมลง
ประโยชน์ของยิปซั่มเกษตร:
เพิ่มผลผลิต:
ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้น
ลดต้นทุนการผลิต:
ช่วยลดการใช้ปุ๋ยและสารเคมีอื่นๆ
ปรับปรุงคุณภาพผลผลิต:
ช่วยให้พืชมีคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น ขนาด ผล รสชาติ
แก้ไขปัญหาดิน:
ช่วยแก้ปัญหาดินเค็ม ดินเป็นกรด ดินเหนียว หรือดินที่มีปัญหาการระบายน้ำ
รักษาสิ่งแวดล้อม:
ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี ลดการชะล้างสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำ
วิธีใช้ยิปซั่มเกษตร:
หว่านโรยบนดิน:
หว่านยิปซั่มให้ทั่วแปลงปลูกก่อนการเพาะปลูก หรือหว่านระหว่างแถวพืช
ผสมน้ำราด:
ละลายยิปซั่มในน้ำแล้วนำไปราดรดแปลงปลูก
ผสมปุ๋ย:
ผสมยิปซั่มกับปุ๋ยอื่นๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของปุ๋ยและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
ใช้ร่วมกับปุ๋ยหมัก:
ช่วยเสริมประสิทธิภาพของปุ๋ยหมักและปรับปรุงคุณภาพของดิน
อัตราการใช้ยิปซั่มเกษตร:
ดินทั่วไป: 50-100 กิโลกรัมต่อไร่
ดินเค็ม: 100-200 กิโลกรัมต่อไร่
ดินเหนียว: 100-200 กิโลกรัมต่อไร่
ดินกรด: 50-100 กิโลกรัมต่อไร่
ปริมาณการใช้:
ปริมาณการใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของดิน สภาพพื้นที่ และชนิดของพืชที่ปลูก ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ผลิตยิปซั่ม
ระยะเวลาการใช้:
สามารถใช้ได้ตลอดฤดูปลูก โดยเฉพาะในช่วงก่อนการเพาะปลูก และช่วงที่พืชต้องการธาตุอาหารสูง
ราคา25 กิโลกรัมละ 200.00 บาท ติดต่อ ปุ๋ยแบล็คแราวน์ โทร. 0931649693 0931649693
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 2 ปี 8 เดือน