กากน้ำตาล ว.เกษตร ตราแบล็คบราวน์

กากน้ำตาล ว.เกษตร ตราแบล็คบราวน์
---------------------
ประโยชน์
- สำหรับทำน้ำหมักและปุ๋ยชีวภาพ - เพาะขยายน้ำหมักชีวภาพ
- เพาะเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ - ผสมอาหารสัตว์ ผสมพืชสด ฟาง
รำข้าว เพื่อเป็นอาหารสัตว์
วิธีการใช้เบื้องต้น
1. นำวัสดุที่ต้องการหมัก เช่น ผลไม้ ผัก หรือเศษอาหาร 3 ส่วน
ผสมกากน้ำตาล 1 ส่วน ผสมน้ำ 10 ส่วน
2. สับหรือบด วัสดุและใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เว้นช่องว่าง
ในถัง 1 ใน 4 ส่วนของถัง ใช้เวลาหมักขั้นต่ำ 3 เดือน ยิ่งหมักนาน
ยิ่งได้ประสิทธิภาพที่ดี แต่ไม่ควรเกิน 1 ปี น้ำหมักธาตุอาหารมาก
น้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับวัสดุในการหมัก
3. ใช้น้ำหมักผสมน้ำตามสัดส่วนที่เหมาะสม ในการบำรุงพืช
การเลี้ยงสัตว์ กำจัดกลิ่น และอื่นๆอีกมากมาย
4. สามารถใช้กากน้ำตาลผสมน้ำหมักเพื่อขยายน้ำหมักได้โดยใช้
กากน้ำตาล 1 ส่วน น้ำหมัก 1 ส่วน น้ำ 20 ส่วน หมักนาน 7-15 วัน
สามารถใช้ได้เช่นกัน
การเก็บรักษา : เก็บไว้ที่เย็น ปิดฝาให้สนิททุกครั้งที่เปิด
-------------------------------------------------
อัตราส่วนการใช้กากน้ำตาลในการเกษตรขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และวิธีการใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว กากน้ำตาลมักใช้เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตสำหรับจุลินทรีย์ในกระบวนการหมักทำน้ำหมักชีวภาพ หรือใช้เป็นส่วนผสมในปุ๋ยหมักเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดินและเพิ่มธาตุอาหาร
อัตราส่วนทั่วไปในการใช้กากน้ำตาล:
น้ำหมักชีวภาพ:
อัตราส่วนทั่วไปคือ กากน้ำตาล 1 ส่วน ต่อ วัตถุดิบ 3 ส่วน (เช่น เศษพืชผัก ผลไม้) และน้ำ 10 ส่วน
ปุ๋ยหมัก:
สามารถใส่กากน้ำตาลในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับปริมาณวัสดุหมัก โดยทั่วไปประมาณ 5-10% ของน้ำหนักวัสดุแห้ง
การรดน้ำต้นไม้:
ผสมกากน้ำตาลเจือจางกับน้ำในอัตราส่วน 1:10 ถึง 1:20
การบำรุงดิน:
ผสมกากน้ำตาลกับดินในอัตราส่วนที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพดินและชนิดของพืช
การใช้เป็นอาหารสัตว์:
กากน้ำตาลสามารถใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ได้ โดยมีอัตราส่วนที่แตกต่างกันไปตามชนิดของสัตว์
------------------------------------------------
กากน้ำตาล (Molasses) คือ ผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการผลิตน้ำตาลทราย มีลักษณะเป็นของเหลวข้นสีดำหรือน้ำตาลเข้ม มีรสหวานอมขม สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งในด้านการเกษตรและการบริโภค
คุณสมบัติของกากน้ำตาล:
รสชาติ: หวานอมขม หรือหวานจัด
สี: ดำหรือน้ำตาลเข้ม
ความข้น: มีความหนืดสูง
องค์ประกอบ: ประกอบด้วยน้ำตาล, แร่ธาตุ, วิตามิน และสารอินทรีย์อื่นๆ
ประโยชน์ของกากน้ำตาล:
ด้านการเกษตร:
เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ในดิน ช่วยเร่งการย่อยสลายอินทรียวัตถุ
ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี
ใช้เป็นส่วนผสมในปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ
ช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดิน
ใช้เป็นสารจับใบในปุ๋ยทางใบ ทำให้ปุ๋ยติดทนนาน
ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี
ช่วยป้องกันโรคและแมลง
ด้านอาหาร:
ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ ช่วยเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหาร
ใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารและเครื่องดื่ม
ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตแอลกอฮอล์
ด้านอื่นๆ:
ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ ช่วยเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหาร
ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่ม
ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตยีสต์
ช่วยลดกลิ่นเหม็นในกระบวนการหมักต่างๆ
วิธีใช้กากน้ำตาล:
การใช้ในดิน:
ผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสม (เช่น 1:10 หรือ 1:20) แล้วราดลงบนดินหรือฉีดพ่นบนใบพืช
การใช้เป็นปุ๋ยหมัก:
ผสมกากน้ำตาลกับวัสดุอินทรีย์อื่นๆ เช่น เศษใบไม้ ฟางข้าว ขี้วัว ขี้ไก่ แล้วหมักไว้จนย่อยสลาย
การใช้เป็นน้ำหมักชีวภาพ:
ผสมกากน้ำตาลกับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เช่น EM (Effective Microorganism) แล้วหมักไว้
การใช้ในอาหาร:
ผสมในปริมาณที่เหมาะสมกับสูตรอาหาร
อัตราการใช้:
สำหรับดิน:
ขึ้นอยู่กับชนิดของดินและความต้องการของพืช โดยทั่วไปประมาณ 1-5 ลิตรต่อไร่
สำหรับปุ๋ยหมัก:
ขึ้นอยู่กับปริมาณวัสดุอินทรีย์ที่ใช้ โดยทั่วไปใช้ประมาณ 1-5% ของน้ำหนักวัสดุ
สำหรับอาหาร:
ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารและปริมาณที่ต้องการ
ข้อควรระวัง:
การใช้ในปริมาณมาก:
อาจทำให้ดินจับตัวแน่น หรือเกิดการปนเปื้อนของน้ำ
การใช้กับพืชบางชนิด:
อาจทำให้พืชใบไหม้ได้ หากใช้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป
การเก็บรักษา:
ควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท หลีกเลี่ยงความร้อนและความชื้น
ผู้ที่เป็นเบาหวาน:
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้กากน้ำตาล เนื่องจากมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ แก้ไขข้อมูลเมื่อ 08 ส.ค. 68 02:15