ลักษณะพฤกษศาสตร์ของพุดพิชญา (3617)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Wringhtia antidysenterica R.Br.
ชื่อวงศ์: Apocynaceae
ลักษณะทั่วไป:
ต้น ไม้พุ่มขนาดเล็ก กิ่งก้านมีสีน้ำตาลแดง
ใบ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ ใบรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง 1-2.5 เซนติเมตร ยาว 2-3 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ผิวใบด้างล่างสีเขียวอ่อน
ดอก สีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ช่อละ 5-6 ดอก กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อนปนเหลือง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดแคบ ปลายแยกเป็น 5 แฉก เกสรตรงกลางสีเหลือง มีรยางค์เป็นแผ่นรูปแถบเเข็งคล้ายขี้ผึ้ง ปลายแยกเป็นริ้ว 2-5 ริ้ว ดอกบานเต็มที่กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร
ฤดูกาลออกดอก: ตลอดปี
การปลูก: ปลูกลงกระถางเป็นไม้ประดับ เหมาะกับสวนทั่วไป สวนไทย หรือสวนป่า
การดูแลรักษา: ดินร่วนระบายน้ำได้ดี แดดเต็มวัน
การขยายพันธุ์: การตอนกิ่ง การปักชำ
ชื่อวงศ์: Apocynaceae
ลักษณะทั่วไป:
ต้น ไม้พุ่มขนาดเล็ก กิ่งก้านมีสีน้ำตาลแดง
ใบ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ ใบรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง 1-2.5 เซนติเมตร ยาว 2-3 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ผิวใบด้างล่างสีเขียวอ่อน
ดอก สีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ช่อละ 5-6 ดอก กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อนปนเหลือง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดแคบ ปลายแยกเป็น 5 แฉก เกสรตรงกลางสีเหลือง มีรยางค์เป็นแผ่นรูปแถบเเข็งคล้ายขี้ผึ้ง ปลายแยกเป็นริ้ว 2-5 ริ้ว ดอกบานเต็มที่กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร
ฤดูกาลออกดอก: ตลอดปี
การปลูก: ปลูกลงกระถางเป็นไม้ประดับ เหมาะกับสวนทั่วไป สวนไทย หรือสวนป่า
การดูแลรักษา: ดินร่วนระบายน้ำได้ดี แดดเต็มวัน
การขยายพันธุ์: การตอนกิ่ง การปักชำ