ค้นหาสินค้า

ดอกลิ้นมังกร

ต้นดอกลิ้นมังกร

ลิ้นมังกร  พิทูเนีย กาซาเนีย ต้นละ 100
ลิ้นมังกร พิทูเนีย กาซาเนีย ต้นละ 100 บางพลี สมุทรปราการ

ราคา 100.00 บาท /ต้น?

ลิ้นมังกร
ลิ้นมังกร ภูเรือ เลย

ราคา 15.00 บาท /ต้น

ดอกลิ้นมังกร
ดอกลิ้นมังกร ภูเรือ เลย

ราคา 10.00 บาท /1ต้น

ลิ้นมังกร
ลิ้นมังกร ภูเรือ เลย

ราคา 10.00 บาท /ต้น

ดอกลิ้นมังกร Antirrhinum Bells Purple and White
ดอกลิ้นมังกร Antirrhinum Bells Purple and White นาจะหลวย อุบลราชธานี

ราคา 45.00 บาท

จังหวัดที่ขายต้นดอกลิ้นมังกร

เลย (3 ร้าน)

สมุทรปราการ (1 ร้าน)

อุบลราชธานี (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นดอกลิ้นมังกร ทั้งหมดในเว็บ

เมล็ดพันธุ์ดอกลิ้นมังกร

ดอกลิ้นมังกร คละแบบคละสี  antriihinum mix
ดอกลิ้นมังกร คละแบบคละสี antriihinum mix บางใหญ่ นนทบุรี

ราคา 35.00 บาท /10000เมล็ด

เมล็ดดอกลิ้นมังกร
เมล็ดดอกลิ้นมังกร เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา

ราคา 110.00 บาท

ลิ้นมังกรคละสี - Mixed Baby Snapdragon
ลิ้นมังกรคละสี - Mixed Baby Snapdragon เมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ

ราคา 30.00 บาท

เมล็ดดอกไม้นำเข้า
เมล็ดดอกไม้นำเข้า ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

ราคา 100.00 บาท

ลิ้นมังกรเตี้ย , ลิ้นมังกรสูง
ลิ้นมังกรเตี้ย , ลิ้นมังกรสูง เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่

ราคา 35.00 บาท

จังหวัดที่ขายเมล็ดพันธุ์ดอกลิ้นมังกร

กรุงเทพมหานคร (1 ร้าน)

เชียงใหม่ (1 ร้าน)

นครราชสีมา (1 ร้าน)

นนทบุรี (1 ร้าน)

สมุทรปราการ (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด เมล็ดพันธุ์ดอกลิ้นมังกร ทั้งหมดในเว็บ

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของลิ้นมังกร (3739)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Sansevieria spp.
ชื่อวงศ์:  Dracaenaceae
ชื่อสามัญ:  Snake plant หรือ Mother-in-laws Tongue
ชื่อพื้นเมือง:  ว่านหางเสือ, ว่านงาช้าง (หอกสุระกาฬ), คลีบปลาวาฬ, ลิ้นนาคราช
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  เป็นหัวหรือเหง้าอยู่ในดิน ใบเกิดจากหัวโผล่ออกมาพ้นดินประกอบกันเป็นกอ
    ใบ  เป็นแท่งกลมยาวหรือใบแบนกว้าง ปลายแหลม แข็ง หนาเป็นมัน ขอบใบเรียบ โค้งงอเล็กน้อยหรือเป็นเกลียว ใบมีความกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร และสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร อาจมากกว่าหรือน้อยกว่าตามแต่สายพันธุ์นั้น ๆ สีสันของใบลิ้นมังกรจะมีสีเขียวซีดจนถึงสีเขียวเข้ม บางสายพันธุ์ใบมีสีเขียวเข้มขอบใบมีสีเหลืองทอง หรือใบมีสีเหลืองและมีสีขาวเป็นเส้นตามแนวใบ สีขาวประ สีเขียวอมเหลือง เขียวอมด่าง สีฟ้า และลักษณะลวดลายบนใบที่มีความแตกต่างและสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ ละสายพันธุ์
    ดอก  ลิ้นมังกรมักจะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ดอกมีสีขาวหรือสีเขียวอ่อนและมีกลิ่นหอม ดอกมี 5 กลีบขนาดเล็กประมาณ 1.5 เซนติเมตร เรียงเป็นแนวตามชั้นของก้านดอก สามารถจำแนกการออกดอกได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
    - spike-like raceme ลักษณะการออกดอกเรียงเป็นแนวตามชั้นของก้านดอก ขนานกับใบ
    - panicle raceme ลักษณะการออกดอกเรียงเป็นแนวตามการแตกกิ่งที่แผ่ออกของก้านดอก
    - capitate raceme ลักษณะการออกดอกยื่นสูงเป็นพุ่มเดี่ยวที่ปลายก้านดอก
การขยายพันธุ์:  วิธีการแยกหน่อ วิธีการปักชำใบ วิธีการเพาะเมล็ด และวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
การใช้ประโยชน์:
    -    ไม้ประดับ
    -    สมุนไพร
สรรพคุณทางยา:  ใบ ของลิ้นมังกรมีรสขม มีสรรพคุณแก้อาการเจ็บคอ บำรุงปอด แก้โรคติดเชื้อในบางระบบทางเดินหายใจส่วนบน ใบใช้ตำหรือขยี้แล้วนำไปทาหรือพอกบริเวณแผลที่อักเสบช่วยให้ทุเลาอาการลงได้
ความมงคล:  คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นลิ้นมังกรไว้ประจำบ้านจะช่วยป้องกันภยันตรายจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ เพราะลิ้นมังกรบางคนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หอกพระอินทร์ ซึ่งเป็นอาวุธชนิดหนึ่งที่พระอินทร์ใช้ในการต่อสู้และปกป้องศัตรูจากภายนอก หลายคนจึงเชื่อว่าลิ้นมังกรเป็นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นไม้ที่มีความสำคัญของพระอินทร์ในสมัยพุทธกาล นอกจากนี้บางคนเชื่อว่าการปลูกลิ้นมังกรบริเวณรอบรั้วบ้านจะช่วยป้องกันไม่ให้งูหรือสัตว์เลื้อยคลานที่เป็นอันตรายเข้ามาได้เนื่องจากลิ้นมังกรเป็นไม้ประดับที่มีใบขึ้นเบียดกันหนาแน่น และบางสายพันธุ์มีขอบใบที่เรียบเป็นลักษณะที่สัตว์เลื้อยคลานบางประเภท รังเกียจ

*ลิ้นมังกรมีคุณสมบัติ ช่วยฟอกอากาศบริเวณรอบ ๆ ให้มีคุณภาพมากขึ้น ช่วยดูดซับสารพิษ ไอระเหยประเภทฟอร์มาลดีไฮด์ โทลูอีน เบนซิน คลอโรฟอร์ม ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และสารพิษอื่น ๆ ที่มาจากสีทาบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น


วิธีปลูกและขยายพันธุ์ลิ้นมังกร (3740)

การปลูกเลี้ยงลิ้นมังกร
                ลิ้นมังกรเป็นไม้ประดับที่มีความเขียวสดใสตลอดทั้งปี ปลูกเลี้ยงได้ง่าย ทนต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง จึงไม่ต้องดูแลรักษามาก แต่ต้องได้รับแสงสว่างที่เพียงพอ อุณหภูมิที่เหมาะสมต้องไม่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสและค่า pH ของดินอยู่ระหว่าง 6-7 สามารถปลูกได้ทั้งภายในอาคารบ้านเรือนและกลางแจ้ง
                การ ปลูกลงแปลงในสวนกลางแจ้งหรือปลูกประดับไว้เป็นแนวรั้วของบ้านสามารถทำได้ ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยการขุดหลุมปลูกขนาดพอเหมาะ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักผสมกับดินร่วนอัตราส่วนเท่า ๆ กันก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย มีประโยคหนึ่งในหมู่นักเล่นลิ้นมังกรที่มักพูดอยู่เสมอว่า “ลิ้นมังกรเป็นไม้ประดับที่ปลูกเลี้ยงได้ง่าย ที่ใดหญ้าขึ้นได้ก็สามารถปลูกไม้ประดับชนิดนี้ได้แล้ว”
                สำหรับ การเพาะปลูกในกระถาง วัสดุปลูกที่ใช้ควรเป็นดินร่วนซุยหรือวัสดุอื่น ๆ ที่มีการระบายน้ำดี เนื่องจากลิ้นมังกรที่ได้รับความชื้นมากเกินไปจะส่งผลให้ใบเกิดการฉ่ำน้ำและ มีผลทำให้ใบเกิดการเน่าได้ กระถางปลูกควรมีขนาดกะทัดรัดและเหมาะสมกับขนาดต้น อาจเลือกกระถางที่มีลวดลายเพื่อเพิ่มสีสันในการตกแต่งอาคารไปในตัว นำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักผสมดินร่วน ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน จากนั้นจึงนำต้นลิ้นมังกรลงปลูกก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย และควรเปลี่ยนกระถางทุก 1-2 ปี เพื่อรองรับการขยายตัวของรากและหน่อที่มีเพิ่มขึ้น

การขยายพันธุ์
                ลิ้นมังกรสามารถขยายพันธุ์ได้ 4 วิธีคือ วิธีการแยกหน่อ วิธีการปักชำใบ วิธีการเพาะเมล็ด และวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยในแต่ละวิธีจะมีข้อดีและข้อด้อยที่แตกต่างกันกล่าวคือ
                - วิธีการเพาะเมล็ด เกิด จากการผสมพันธุ์ของดอกลิ้นมังกร ซึ่งอาจเกิดจากการผสมในต้นเดียวกันหรือเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ การขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ ๆ เนื่องจากการผสมข้ามสายพันธุ์และการกลายพันธุ์ของต้นที่เกิดจากเมล็ดจะมี พันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรเช่นเดียวกับการคัดเลือกสายพันธุ์ชนิดอื่น ๆ
                - วิธีการแยกหน่อ เมื่อ ถึงอายุที่เหมาะสมลิ้นมังกรจะมีการแตกหน่อจากหัวใต้ดินออกมาอย่างต่อเนื่อง ผู้ปลูกเลี้ยงสามารถขุดหัวแล้วแยกหน่อยขยายพันธุ์ การขยายพันธุ์วิธีนี้ใช้ระยะเวลาไม่นานและต้นลูกที่ได้จะมีลักษณะเหมือนกับ ต้นแม่ทุกประการ จึงเหมาะแก่การขยายพันธุ์ในเชิงการค้า
                - วิธีการปักชำใบ โดยการตัดใบลิ้นมังกรออกเป็นชิ้นหรือท่อน และสามารถนำไปปักลงวัสดุเพาะปลูกได้ทันทีในบางสายพันธุ์การขยายพันธุ์ด้วย วิธีนี้เมื่อใบปักชำเจริญเติบโตและแตกหน่อออกมา ต้นลูกที่ได้จะมีลักษณะผิดเพี้ยนไปจากต้นแม่ จึงไม่เหมาะที่จะนำมาขยายพันธ์ในเชิงการค้า อีกทั้งรากอ่อนที่เพิ่งแตกออกมาจากใบที่ปักชำมักถูกทำลายด้วยแมลงปีกแข็งที่ อยู่ใต้ดินได้ง่าย
                - วิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ลิ้นมังกรเป็นไม้ประดับชนิดหนึ่งที่สามารถเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้ แต่ยังคงมีอุปสรรคในเรื่องความสม่ำเสมอของการเจริญเติบโต และเปอร์เซ็นต์ความอยู่รอดที่ต่ำจึงไม่เหมาะแก่การขยายพันธุ์ในเชิงการค้า

วีธีปลูกต้นลิ้นมังกร (3746)

คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดที่ปลูกต้นลิ้นมังกรไว้ประจำบ้าน จะช่วยป้องกันอันตรายจากภายนอกได้ เพราะลิ้นมังกร มีอีกชื่อหนึ่งว่า หอกพระอินทร์ ซึ่งเป็นอาวุธชนิดหนึ่งของพระอินทร์ ที่ใช้ในการต่อสู้และปกป้องศัตรูจากภายนอก ดังนั้นลิ้นมังกรจึงเป็นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์

   

วิธีปลูก สำหรับ ปลูกในแปลง เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน นิยมปลูกเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน : อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก

   

ส่วนการปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด 10-15 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา : 1 : 1 ผสมดินปลูก แนะควรเปลี่ยนกระถางทุก 1-2 ปี เนื่องจากรากและหน่อจะขยายตัว

   

การดูแลรักษา ต้นลิ้นมังกร ต้องการแสงแดดปานกลางจนถึงแสงแดดจัด และควรรดน้ำอย่างน้อย  5-7 วัน/ครั้ง แนะควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 4-5 ครั้ง ในอัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/กอ

เอื้อเฟื้อข้อมูล โดย www.dailynews.co.th

ลิ้นมังกรเป็นไม้มงคล (3911)

คนไทยเราเชื่อกันมาแต่โบราณว่า ลิ้นมังกรเป็นไม้ที่ให้โชค และมีอำนาจปกป้องคุ้มภัย ช่วยให้ชีวิตและครอบครัวมีความสุขร่มเย็น ลิ้นมังกรหรือหอกของพระอินทร์ ถือเป็นอาวุธที่เป็นมงคลคอยพิทักษ์รักษาผู้เป็นเข้าของ ขับไล่สิ่งอุบาทว์ และความอัปมงคลต่างๆ ออกไปจากชีวิต ศัตรูจะแพ้ภัย มีแต่คนให้ความรักและเคารพ

เพื่อเพิ่มฤทธิ์มงคลให้กับลิ้นมังกรมากขึ้น ควรปลูกลิ้นมังกรนี้ในวันอังคาร และควรปลูกไว้ในทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาบริเวณบ้าน จะปลูกในแปลงหรือในกระถางก็ได้