ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกระบาก (3858)
ชื่อวงศ์: Dipterocarpaceae
ชื่อสามัญ: mersawa
ชื่อพื้นเมือง: ตะบาก, กระบากขาว, กระบากโคก, กระบากช่อ, กระบากด้าง, กระบากดำ, กระบากแดง, ชอวาตาผ่อ, บาก, ประดิก, พนอง, หมีดังว่า
ลักษณะทั่วไป:
ต้น เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบปกติ สูง 20-30 เมตร แต่อาจพบสูงถึง 40 เมตร ลำต้นเปลาตรง เปลือกหนาสีน้ำตาลเทา แตกร่อนและเป็นสะเก็ด เปลือกในเรียงซ้อนกันเป็นชั้นสลับกันระหว่างสีน้ำตาลแดง และสีเหลือง โคนต้นมักเป็นพูพอน
ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยวติดเรียงสลับ ทรงใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน และรูปไข่กลับ กว้าง 3-8 ซม. ยาง 6-16 ซม. หลังใบเกลี้ยงหรือเกือบเกลี้ยง ท้องใบมีสีน้ำตาลอมเหลือง เส้นแขนงใบมี 12-16 คู่ ขอบใบเรียบ
ดอก ขนาดเล็ก ออกรวมกันเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบตอนปลายๆ กิ่ง กลีบดอกมี 5 กลีบ สีขาวปนเหลืองอ่อน
ฝัก/ผล กลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. ผิวเรียบ มีปีกยาว 2 ปีก
ฤดูกาลออกดอก: ธันวาคม-กุมภาพันธ์
การขยายพันธุ์: ใช้เมล็ดเพาะ
การดูแลรักษา: ดินที่เหมาะสม คือ ดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์และการระบายน้ำดี ชอบสภาพอากาศค่อนข้างชื้น-ชื้น ชอบแสง ในระยะแรกของการปลูกต้องการแสง 60-70%
การใช้ประโยชน์: - ใช้ประโยชน์ในการทำแบบหล่อคอนกรีต พื้น รอด ตง เรือมาด แจว พาย กรรเชียง ตัวถังเกวียนและรถ สันแปรง หีบใส่ของและหีบศพ
- ชันใช้ผสมน้ำมันทาไม้ น้ำมันชักเงา ยาแนวไม้และเรือ
- ปลูกเป็นแนวกันลม ควบคุมความชื้น รักษาระบบนิเวศของป่าดินและน้ำ
- ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
แหล่งที่พบ: เป็นพรรณไม้หลักของป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณทั่วประเทศที่สูงจากระดับน้ำทะเล 10 - 400 เมตร