ค้นหาสินค้า

ชีวิต และธุรกิจส่วนตัว

ผม เป็นลูกชาวสวน แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องต้นไม้เลย  แต่ด้วยความที่สนใจ อยากมีธุรกิจบ้าง และอยากช่วยพ่อกับแม่ที่บ้านให้มีคนมาซื้อต้นไม้เยอะๆ เลยได้ลองปรึกษากับพ่อกับแม่ดู ท่านบอกว่า วันๆนึง คนจะหลงมาซื้อไม่กี่คนเอง บางวันก็ขายไม่ได้เลย ผมเลยลองหาเวปที่ขายเกี่ยวกับต้นไม้ จึงพบว่า Nanagarden อยู่ในหน้าแรกของการค้นหา เลยลองคลิกเข้ามาดู ก็พบว่า เป็นศูนย์กลางการค้าขายต้นไหม้ขนาดใหญ่ น่าจะอันดับ 1 ของประเทศด้วยซ้ำมั้ง ผมจึงไม่รีรอ หยิบกล้องและพาพ่อเข้าสวน ถ่ายรูปต้นไม้ที่บ้านเราขาย แล้วลองเอามาลงขายที่แห่งนี้ แรกๆยอมรับว่า ไม่มีใครรู้จักเลย ผมขาย ชงโค ฟอกเทล สนฉัตร กว่าลูกค้าท่านอื่นๆจะหาเจอ ร้านค้าเราก็อยู่ในอันดับท้ายๆของการค้นหา จริงๆแล้วต้นไม้บ้านผม ไม่ได้แพงเลย เพราะเพาะเอง ปลูกเอง ทำเอง เป็นธุรกิจครอบครัว ไม่มีนายหน้า ไม่มีค่าขนส่ง ค่าคอมพ์มิดชั่น จึงตั้งใจจะหาโอกาสที่เอาความได้เปรียบด้านราคา มาแข่งกับเจ้าอื่นๆดูบ้าง    
   
ตอนนี้ ก็ผ่านมาสองเดือน อาจจะยังไม่ถึงเวลาของเรา ไม่เป็นไร พยายามต่อ    
พ่อกับแม่ผมเองตอนนี้ มีร้านขายของขนาดกลาง ในหมู่บ้านดงบัง    
พ่อ เกษียณจากอาชีพทหาร ยศตำแหน่งใหญ่โต มาเป็นพ่อค้าและชาวสวนในหมู่บ้านดงบัง    
แม่ อดีตเคยเป็นแม่บ้าน แต่ด้วยความที่ต้องส่งลูกเรียน เลยตัดสินใจมาตั้งร้านขายของ เพื่อจุนเจือรายได้ให้กับครอบครัว    
ผมเอง เป็นลูกคนที่สาม มีอาชีพเป็นวิศวกรบริษัทเอกชนแห่งนึง    
เคยมีความคิดลึกๆ ว่า แท้จริงแล้ว การรับเงินเดือนไปเรื่อยๆแบบนี้ มันก็สบายดีนะ    
ทำงานเบา ก็ได้เงินเดือน ทำงานหนัก ก็ได้เงินเดือน แต่มันเท่าเดิม ขาดลา มาสาย ไม่สบาย โดนหักตังค์หมด    
จะไปเที่ยว ก็ต้องขอหัวหน้า จะลาทำธุระ ก็ต้องชี้แจง ทำมาสักระยะ รู้สึกขาดอิสระภาพ (แต่ตอนนี้็ยังทำอยู่)    
เลยมองหาเป้าหมายถัดไป ที่จะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน มาเป็นเจ้านายตัวเอง แม้มันจะไม่ง่าย แต่ก็ต้องสู้กันสักตั้งดู    
ผมเคยลองทำธุรกิจร้านเหล้า ด้วยที่เราเป็นคนชอบดื่ม และความสนใจกับเพื่อนๆที่ชวนร่วมหุ้น เลยตัดสินใจลองทำดู    
กลางวันทำเป็นวิศวกร กลางคืนเป็นเจ้าของร้านเหล้า    
แรกๆสนุกดี หลังๆชีิวิตเริ่มเหนื่อย แถม บางวัน ไม่มีลูกค้า ก็ต้องมานั่งเฝ้าร้านจนปิดแบบเหงาๆ    
ในเวลาสองเดือนที่ทำร้านเหล้า พยายามทำทุกวิธีทาง เพื่อให้คนเข้าร้าน จ้างเด็กเสริฟงามๆ จ้างวงดนตรีดีๆ ลดราคาเหล้าเบียร์    
สุดท้าย เมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็ขาดทุนเรื่อยๆ จึงขอยุติกิจการไว้เท่านั้น ขาดทุนไปแสนกว่า    
   
เงินก้อนนี้ อาจจะเยอะมาก แต่ผมมองว่า มันเป็นการซื้อความรู้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้ลองหาอะไรใหม่ๆให้กับชีวิต    
ธุรกิจจจะเจ๊ง แต่ตัวเราต้องไม่เจ๊ง และต้องเดินหน้าต่อไปให้ประสบความสำเร็จ    
   
ตอนนี้ ผมอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังไม่ได้ท้อ    
ทุกท่าน ที่อาจจะเคยท้อ ไม่เป็นไร ทุกคนต้องมีความรู้สึกนั่น แต่เมื่อพร้อมแล้ว ก็ลุกขึ้นมา แล้วสู้กับมันต่อไป    
   
ขอให้ประสบความสำเร็จทุกท่านครับ

คำสำคัญ: ชงโค