ค้นหาสินค้า

แก้วมังกร (Dragon Fruit)

แก้วมังกร (Dragon Fruit)    
   
Kajeepunsmartfarmer ติดต่อสอบถาม โทร. 093-591-0369 จังหวัดนครสวรรค์    
   
วิธีการปลูก    
1. กำหนดระยะห่างระหว่างต้น 3.5 เมตร และระหว่างแถว 3 เมตร (หรือ 3 ม. X 4 ม.)    
2. ขุดหลุมลึกประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อปักเสา โดยขุดให้กว้างกว่าเสาเล็กน้อย    
3. นำเสาไม้ขนาดหน้ากว้าง 3 นิ้ว มาเสี้ยมให้ปลายแหลมเป็นลิ่ม ตอกลงกลางหลุมใช้ตะปู 4-5 ตัว ตอกบนเสาให้หัวตะปูโผล่ขึ้นมา ทั้งนี้ต้องตอกเสาให้โผล่พ้นหลุม10-12 เซนติเมตร    
4. นำท่อปูนมาใส่ในหลุมที่มีเสาไม้ปักอยู่ให้ตั้งฉากกับพื้นดิน (เสาจะอยู่ภายในท่อปูน)ใส่ดินลงข้าง ๆ เสาปูนด้านนอกให้เต็มหลุม กลบให้แน่นพอควร    
5. ผสมปูนซีเมนต์ หินและทรายลงในท่อปูนให้มิดหัวตะปูทิ้งไว้ 2 วัน ปูนซีเมนต์จะแข็งตัวและยึดติดกับเสา ทำให้เมื่อใส่น้ำในท่อเสาปูนจะไม่ร้อน นำไม้แดงมาต่อบนหัวเสาเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสเพื่อเป็นร้านให้แก้วมังกรเลื้อย    
6. ขุดหลุมข้าง ๆ เสาทั้งสี่ด้าน ขนาดกว้าง 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ให้จุดศูนย์กลางหลุมห่างจากเสา 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ที่ก้นหลุม 1 ช้อนแกง/หลุมและนำแกลบเก่ามาผสมปุ๋ยคอกอย่างละเท่า ๆ กันเทก้นหลุม ๆ ละครึ่งปี๊บ    
7. ใช้มีดกรีดถุงพันธุ์ 2 ด้านตรงกัน ดึงพลาสติกแบะออกเป็น 2 ด้าน ประคองวัสดุปลูกที่ติดกับต้นแก้วมังกรใส่ตรงกลางหลุม (ระวังอย่าให้ต้นช้ำและรากขาด) โดยหันด้านแบนของต้นเข้าหาเสา และให้รากอยู่ตำแหน่งผิวดินไม่เกิน 5 เซนติเมตร จัดลำต้นให้เอนเข้าหาเสาเล็กน้อย เอาดินกลบ ใช้เชือกฟางมาผูกลำต้นชิดติดกับเสา    
8. รดน้ำให้ชุ่มเสมอสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ถ้าอากาศร้อนจัดให้บังแดดด้วยทางมะพร้าวหรือกิ่งไม้ที่หาได้ง่าย ใช้สายยางฉีดน้ำลงไปในเสาปูนจนเกือบเต็ม    
9. ใส่ปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 ผสมกับภูไมต์ในอัตรา 4 : 1 มูลไก่ 1 ถ้วยต่อหลัก เดือนละ1 ครั้ง    
10. นำจุลินทรีย์อีเอ็มมาผสมกากน้ำตาลและน้ำ รดเป็นระยะ ๆ เมื่อต้นแก้วมังกรแตกกิ่งออกมาเป็นจำนวนมากต้องตัดทิ้งให้หมด และปล่อยให้ต้นเจริญเติบโตจนถึงปลายหลักและขึ้นค้าง จัดกิ่งให้กระจายไปทั่วค้างเพื่อความสมดุล และมัดกิ่งให้อยู่กับร้าน    
11. ต้นแก้วมังกรจะเริ่มออกดอกภายในระยะเวลา 8 เดือน ให้เริ่มใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 และเมื่อติดผลอ่อนกลีบดอกที่อยู่ปลายผลแก้วมังกรจะแห้งแต่ไม่ร่วง (เป็นที่อาศัยของมดดำ) ให้ดึงกลีบดอกที่แห้งออกเพื่อให้ผลโตเร็ว    
12. เมื่อต้นแก้วมังกรติดผลให้เลือกผลที่สมบูรณ์ไว้ไม่เกินกิ่งละ 2 ผล    
   
วัสดุที่ใช้ปักชำ    
1.ถุงดำ    
2. แกลบดำ    
3. ทรายหยาบ    
4. ขุยมะพร้าว    
5. กิ่งพันธุ์ควรเลือกกิ่งพันธุ์ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีมีสีใบเข้ม สะอาด ไม่มีตำหนิ อ้วนและสมบูรณ์แข็งแรง ความยาว 25-40 เซนติเมตรหรือมากกว่า การบำรุงรักษาระหว่างชำ รดน้ำให้วัสดุชื้นอยู่เสมอ ระวังอย่าให้มีมดคันไฟ หากมีต้องรีบกำจัด เมื่อต้นพันธุ์อายุได้ 1-2 เดือน ควรใช้ปุ๋ยสูตร15-15-15 หรือ 16-16-16 (อัตรา 1 ช้อนแกง : น้ำ20 ลิตร) ให้รด 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง ใช้ 4-5 เดือน รากและยอดแก่ที่แข็งแรงสามารถย้ายปลูกได้ ศัตรูของผลแก้วมังกร มดคันไฟ เพลี้ยอ่อน (ตอมยอด) ด้วงค่อมทอง (แทะกินกลีบผล) หนอน (เจาะเปลือกและเนื้อ) เพลี้ยหอย (เกาะที่ปลายผล) พวกม้วนนักกล้าม (สันนิษฐานว่าทำให้ผิวของผลแก้วมังกรเป็นจุดคล้ายหนาม) หนอนแมลงวัน นกและหนู (เจาะทำลายผล) เพลี้ยไฟ(ผิวผลจะกร้านและตกกระลายพบน้อยมาก) หนอนบุ้ง เพลี้ยแป้ง ด้วงปีกแข็ง และต้องระวังมิให้สัตว์เลี้ยง เป็ด ไก่และห่านขุดคุ้ยโคนต้นได้ โรคพืชอื่น ๆ    
   
ข้อแนะนำ    
1.    พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่ - พันธุ์เวียดนาม เนื้อขาวเปลือกแดง ผลผลิต 2 ผล/กิโลกรัม        
- พันธุ์ไทย ผลผลิต 3-4 ผล/กิโลกรัม มีรสหวาน เมล็ดกรอบอร่อยเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค    
- พันธุ์ลูกผสม (เวียดนามกับไทย) มีรสหวานอมเปรี้ยว ผลมีขนาดกลาง    

คำสำคัญ: ผลไม้แปรรูป