ค้นหาสินค้า

การปลูกโสมเกาหลี

โสมเกาหลีเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกว่ามีสรรพคุณบำรุงร่างกาย เสริมสร้างพลังชีวิต รักษาโรคภัยต่างๆได้ ดังนั้นจึงทำให้พืชชนิดนี้มีมูลค่ามากกว่าทองคำเสียอีก    
การนำโสมมาใช้กับมนุษย์นั้นมีประวัติยาวนานมากว่า 2,000 ปี สมัยก่อนการจะหาโสมมาได้นั้นจะต้องเข้าไปค้นหาโสมกันในป่าเขาลึกไกลและอันตราย ต้องเสี่ยงชีวิตกับธรรมชาติและสัตว์ป่า บางครั้งยังมีการดักปล้นเพื่อแย่งชิงโสมที่หามาได้อีกด้วย    
ปัจจุบันจึงมีการปลูกโสมเพื่อการค้า ทำให้การเก็บโสมง่ายขึ้นและไม่อันตราย แต่มูลค่าของโสมก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปแต่อย่างไรเนื่องจากโสมเป็นพืชที่มีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างช้ากว่าจะได้โสมที่มาใช้งานนั้นจะต้องใช้เวลาถึง 6 ปีเลยทีเดียว และเมื่อเก็บโสมขึ้นไปแล้วพื้นที่บริเวณนั้นจะไม่สามารถเพาะปลูกอะไรได้อีกเลย

เนื่องจากโสมจะดูดธาตุอาหารต่างๆในดินไปจนหมดสิ้นจึงต้องรอให้ดินบริเวณนั้นได้มีการพักฟื้นเพื่อเก็บสะสมธาตุอาหารใหม่เสียก่อนจึงจะสามารถปลูกพืชลงไปได้ การสะสมธาตุอาหารในดินจะใช้เวลา 10-15 ปีขึ้นไป ดั้งนั้นโสมที่ขึ้นในป่าจะพบได้ที่เดิมเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ปัจจุบันเกษตรที่ปลูกโสมได้พัฒนาการปลูกด้วยการเตรียมดินปลูกเอาไว้ก่อนแล้ว เมื่อเก็บโสมไปแล้วจึงทำการเพาะปลูกกันได้ต่อเนื่องทันที

ปัจจุบันโสมเกาหลีได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลเกาหลีเป็นพืชส่งออกที่สำคัญและนำรายได้เข้าประเทศอย่างมากมาย โสมที่ส่งออกไปขายนั้นส่วนใหญ่จะมีตั้งแต่โสมสดๆ โสมตากแห้ง โสมสกัด และผลิตภัณฑ์ต่างที่แปรรูปจากโสม ซึ่งเป็นที่สนใจและมีความต้องการเป็นจำนวนมาก    
   
สรรพคุณ    
ช่วยลดความเมื่อยล้า โดยกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายสร้างพลังงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้นโสมมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการสร้างและเผาผลาญพลังงานของร่างกาย    
สารสกัดจากโสมช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้กลับคืนสู่สภาพปกติรวดเร็วยิ่งขึ้น ร่างกายจึงเหน็ดเหนื่อยช้าลง มีความอดทนต่อการทำงานได้ดีขึ้น ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจ ให้ทนต่อความกดดันจากภายนอก โสมเร่งขบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆ เพื่อปลดปล่อยพลังงานออกมาต่อต้านความเครียด    
   
สารสกัดจากโสมทำให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดอาการชาตามนิ้วมือและปลายเท้า การเกิดแผลเน่าเปื่อย นอกจากนี้สารจินซีโนไซด์ Rb1 และ Re ยังมีฤทธิ์คล้ายอินซูลิน ช่วยลดขนาดการใช้อินซูลินในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้    
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ เสริมฤทธิ์ฮอร์โมนอินซูลินในการกำจัดน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย    
   
โสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผลการทดลองพบว่าสารสกัดโสมช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น    
   
สารต้านอนุมูลอิสระในโสมช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ชะลอความชราภาพของเซลล์และอวัยวะต่างๆ    
รักษาความดันโลหิตสูง ลดภาวะเส้นเลือดแข็งตัว และลดการจับตัวของเกล็ดเลือดในหลอดเลือด    
   
ป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ปกติไปเป็นเซลล์มะเร็ง หรือเนื้องอก โดยเฉพาะบริเวณกระเพาะอาหารและรังไข่ สารไบโอแอกทีฟในโสมช่วยยับยั้งการเจริญของเนื้องอก    

อาหารที่มีชื่อเสียงมากก็คือซุปไก่ยัดไส้โสม เป็นเมนูที่ทำได้ง่ายและหารับประทานได้ทั่วไปจึงทำให้มี    
ผู้บริโภคโสมเพิ่มมากขึ้น ในปีหนึ่งๆจะมีการจัดงานโสมขึ้นทุกๆปี ภายในงานจะมีร้านค้าที่นำโสมและผลิตภัณฑ์จากโสมเข้ามาขายกันมากมาย สามารถเลือกซื้อโสมได้ทุกอย่างทุกขนาด มากันตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกจนถึงโรงงานและผู้ส่งออกกันเลย เป็นงานที่ทำรายได้ให้กับอุตสาหกรรมนี้อย่างมากมายมหาศาล

ผังการเจริญเติบโตของโสมเกาหลี    
   
โสมเกาหลี ชอบอากาศเย็นๆ ดินร่วน ดินทราย ไม่ชอบแดด ต้องปลูกใต้ร่มเงา เป็นพืชใช้ประโยชน์จากหัว อาหารที่ได้รับจะไปสะสมอยู่ที่ส่วนหัวใต้ดิน เมื่อได้รับสารอาหารแล้วหัวจะขยายใหญ่ขึ้น ตามปริมาณสารอาหารที่ได้รับ ดังนั้นก่อนปลูกควรจัดเตรีมแปลงปลูกให้มีธาตุอาหารที่เหมาะสมเสียก่อน    

โสมเกาหลีเมื่อมีอายุครบ 6 ปีแล้ว เกษตรกรจะขุดขึ้นมาเพื่อจำหน่าย,แปรรูป ต่อไป

วิธีการปลูกโสมเกาหลีตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ดจนถึงการเก็บโสมขึ้นมา    
เริ่มจาก เก็บเมล็ดในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม    
บ่มเมล็ดในเดือนกันยายน    
เดือนตุลาคม นำเมล็ดที่บ่มเอาไว้ลงแปลงเพาะ    
ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายนเมล็ดโสมก็จะเริ่มงอกขึ้นมา    
ผ่านไป 1 ปี ให้ขุดโสมขึ้นมาแล้วนำลงแปลงปลูกที่มีการบังแสงแดดให้แล้ว    
หลังจากนั้นเมื่อเข้าปีที่ 4-5 โสมจะเริ่มออกดอกและติดเมล็ด เก็บเมล็ดไว้ทำปลูกต่อไป    
ปีที่ 6 โสมจะเจริญเติบโตเต็มที่ ขุดโสมขึ้นมาใช้งานได้เลย

เข้าชมวิดีโอขั้นตอนการปลูกโสมได้ที่ เมนู คลิบวิดีโอ    

โสมเกาหลี จากรายการกบนอกกะลา    
http://www.youtube.com/watch?v=MPh5q9yWw74    
http://www.youtube.com/watch?v=to0Khjwy8F8    
http://www.youtube.com/watch?v=lbxDGGl5Njw

คำสำคัญ: