ค้นหาสินค้า

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกระบาก

ชื่อวิทยาศาสตร์:    Anisoptera  costata
ชื่อวงศ์:    Dipterocarpaceae
ชื่อสามัญ:    mersawa
ชื่อพื้นเมือง:    ตะบาก, กระบากขาว, กระบากโคก, กระบากช่อ, กระบากด้าง, กระบากดำ, กระบากแดง, ชอวาตาผ่อ, บาก, ประดิก, พนอง, หมีดังว่า
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น    เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบปกติ สูง 20-30 เมตร แต่อาจพบสูงถึง 40 เมตร ลำต้นเปลาตรง เปลือกหนาสีน้ำตาลเทา แตกร่อนและเป็นสะเก็ด เปลือกในเรียงซ้อนกันเป็นชั้นสลับกันระหว่างสีน้ำตาลแดง และสีเหลือง โคนต้นมักเป็นพูพอน
    ใบ    เป็นชนิดใบเดี่ยวติดเรียงสลับ ทรงใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน และรูปไข่กลับ กว้าง 3-8 ซม. ยาง 6-16 ซม. หลังใบเกลี้ยงหรือเกือบเกลี้ยง ท้องใบมีสีน้ำตาลอมเหลือง เส้นแขนงใบมี 12-16 คู่ ขอบใบเรียบ
    ดอก    ขนาดเล็ก  ออกรวมกันเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบตอนปลายๆ กิ่ง  กลีบดอกมี  5  กลีบ สีขาวปนเหลืองอ่อน
    ฝัก/ผล    กลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. ผิวเรียบ มีปีกยาว 2 ปีก
ฤดูกาลออกดอก:    ธันวาคม-กุมภาพันธ์
การขยายพันธุ์:    ใช้เมล็ดเพาะ
การดูแลรักษา:   ดินที่เหมาะสม คือ ดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์และการระบายน้ำดี   ชอบสภาพอากาศค่อนข้างชื้น-ชื้น ชอบแสง ในระยะแรกของการปลูกต้องการแสง 60-70%   
การใช้ประโยชน์:    - ใช้ประโยชน์ในการทำแบบหล่อคอนกรีต พื้น รอด ตง เรือมาด แจว พาย กรรเชียง ตัวถังเกวียนและรถ สันแปรง หีบใส่ของและหีบศพ
                             - ชันใช้ผสมน้ำมันทาไม้ น้ำมันชักเงา ยาแนวไม้และเรือ
                             - ปลูกเป็นแนวกันลม ควบคุมความชื้น รักษาระบบนิเวศของป่าดินและน้ำ
                             - ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
แหล่งที่พบ:    เป็นพรรณไม้หลักของป่าดิบแล้ง  และป่าเบญจพรรณทั่วประเทศที่สูงจากระดับน้ำทะเล  10 - 400  เมตร   

คำสำคัญ: กระบาก