ชื่อวิทยาศาสตร์: Acacia farnesiana Willd.
ชื่อวงศ์: MIMOSACEAE
ชื่อสามัญ: Cassie Flower, Sponge Tree
ชื่อพื้นเมือง: คำใต้, ดอกคำใต้, กระถินหอม, กระถิน, ถิน, บุหงาชียม, บุหงาอินโดนีเซีย, บุหงาละสะมะนา, มอนคำ, เกากรึนอง, อะเจ๋าฉิ่ว
ลักษณะทั่วไป:
ต้น เป็นพรรณไม้พุ่มขนาดย่อม สูงประมาณ 2-4 เมตร ลำต้นมีหนาม ต้นกิ่งก้านจะมีสีคล้ำน้ำตาล
ใบ มีสีเขียวแก่ เป็นใบประกอบเรียงตัวลักษณะคล้ายขนนก 2 ชั้น ยาวประมาณ 5-8 เซนติเมตร มีใบย่อย 10-20 คู่ หูของใบจะมีหนามยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
ดอก เป็นช่อมีลักษณะเป็นพุ่มกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร มีขนสั้นๆคลุมอยู่ มีสีเหลืองเข้มจะมีกลิ่นหอม กลีบดอกเป็นหลอด ส่วนปลายจะมี 5 กลีบ รังไข่ยาวเป็นหลอด มีเกสรตัวผู้มาก ปลายก้านเกสรตัวเมียงอ ก้านช่อดอกยาวประมาณ 1-3 เซนติเมตร
ฝัก/ผล มีลักษณะเป็นฝักยาวกลมตรงหรือโค้งเล็กน้อย ยาวประมาณ 4-10 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
เมล็ด รูปรี กว้าง 0.5 ซม. ยาว 0.7-0.8 ซม.
ฤดูกาลออกดอก: ดอกตลอดปี
การขยายพันธุ์: เมล็ด
การปลูก: ปลูกขึ้นได้ในดินร่วนซุยและดินเหนียวที่อุ้มน้ำได้ดี
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก
การใช้ประโยชน์: - สมุนไพร
- ฝักนำมาใช้เป็นสีย้อมแบบการใช้น้ำฝาดและทำหมึก
แหล่งที่พบ: พบได้ทั่วไปทุกภาค
สรรพคุณทางยา: - เปลือก เป็นยาฝาดสมาน แก้ไอ และริดสีดวงทวาร
- ราก ใช้แก้โรคไขข้ออักเสบ ทำให้อาเจียน ใช้พอกแก้บวม ต้มรวมกับขิงใช้อมบ้วนปากแก้เหงือกอักเสบและมีเลือดออก
- ดอก ใช้เป็นยาแก้เกร็งและเป็นยาฆ่าแมลง ใบใช้เป็นยาพอกแผล
- ยาง ที่ได้จากลำต้นมีคุณภาพดีนำมาใช้ทางด้านเภสัชกรรมเป็นสารแขวนลอย
การปรุงอาหาร: น้ำมันดอกกระถินเทศใช้แต่งกลิ่นอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวาน และลูกกวาด แต่ต้องใช้ในปริมาณต่ำ