ชื่อวิทยาศาสตร์: Cananga odorata (Lank.) Hook. f. et. Th. var. fruticosa (Craib) J. Sincl.
ชื่อวงศ์: ANNONACEAE
ชื่อสามัญ: Dwarf Ylang-Ylang
ชื่อพื้นเมือง: กระดังงาสาขา กระดังงาเบา(ใต้) กระดังงอ (มาเลเซีย, ยะลา)
ลักษณะทั่วไป:
ต้น ไม้พุ่ม สูง 1-2.5 เมตร
ใบ เดี่ยว เรียงสลับออกเป็นพุ่มแน่นทึบ รูปใข่หรือรูปขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 10-18 ซม.
ดอก ดอกจะมีทั้งดอกเดี่ยวและดอกช่อ โดยดอกจะออกเป็นกลุ่มๆ ที่บริเวณปลายกิ่ง ดอกมีสีเขียวแกมเหลืองออกดอกตลอดปี ลักษณะดอกจะมีกลีบดอกยาวเรียว บิดเป็นเกลียวเล็กน้อยและอ่อนนิ่ม จำนวนกลีบดอกประมาณ 15 - 24 กลีบ เรียงตัวเป็นชั้น ชั้นละประมาณ 3 กลีบ ความกว้างของกลีบดอกประมาณ 0.5 - 1.8 Cm ยาว 5 - 9 Cm ตอนเป็นดอกอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน เมื่อแก่จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทอง เมื่อดอกหลุดร่วงก็จะให้ผล ลักษณะคล้ายดอกกระดังงาไทย แต่ขนาดเล็กกว่า กลีบกระดังงาสงขลาบิดเป็นเกลียวมากกว่า และกลิ่นหอมน้อยกว่า แต่มีดอกดกกว่ากระดังงาไทย
ฝัก/ผล เป็นกลุ่มผล ผลกลม ผลอ่อน สีเขียว ผลแก่ สีแดงอมม่วง
เมล็ด มีเมล็ดหลายเมล็ด
ฤดูกาลออกดอก: ออกดอกตลอดปี
การปลูก: ชอบแสงสว่าง และความชุ่มชื้นของดินสูง ต้องปลูกในที่แจ้งถึงจะให้ดอก หากนำไปปลูกในที่ร่มจะทำให้ลำต้นยาวเรียวไม่แข็งแรง แตกกิ่งน้อยและไม่ค่อยจะออกดอก
การดูแลรักษา: การรดน้ำตอนเล็กๆ ก็รดน้ำวันละสองครั้งเช้า - เย็น พอโตขึ้นอาจจะรดวันละครั้งก็ได้
การขยายพันธุ์: การเพาะเมล็ด และตอนกิ่ง และปักชำ
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก
การใช้ประโยชน์:
- สมุนไพร
- เป็นส่วนประกอบในการทำขนม
- เนื้อไม้และใบ ทำบุหงา อบร่ำ ทำน้ำหอม เป็นน้ำมันหอมระเหย (Essential oil)
- ผสมกับครีม-โลชั่น จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้
- ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด: จังหวัดสงขลา
แหล่งที่พบ: ภาคใต้ของประเทศไทย
ส่วนที่ใช้บริโภค: ดอก
การปรุงอาหาร: ใช้เป็นส่วนประกอบในการอบขนม อบข้าวแช่
สรรพคุณทางยา:
- ดอก เป็นยาบำรุงหัวใจ นำดอกมาสกัดน้ำมันหอมระเหย แก้ลมวิงเวียน
- ราก คุมกำเนิด
- ต้น กิ่ง ก้าน เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ
- ใบ รักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน แก้คัน ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ ขับปัสสาวะพิการ
- เกสร แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข้จับ แก้ไข้เพื่อลม แก้ไข้เพื่อปถวีธาตุ แก้โรค ช่วยให้เจริญอาหาร
*ถือเป็นพืชถิ่นเดียวและพืชหายาก ควรอนุรักษ์ไว้ให้ดี