สร้อยสายเพชร (Nodding Clerodendron)

บ้านสวนเศวตเวช | กาญจนดิษฐ์ สุราษฎร์ธานี
กิ่งชำต้นสร้อยสายเพชร (ระย้าแก้ว,สังวาลย์พระอินทร์, ตุ้มหูพระอินทร์, พวงระย้า) ปลูกในกระถาง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Clerodendrum wallichi
ชื่อวงศ์ LABIATAE
ชื่ออื่นๆ ระย้าแก้ว,สังวาลย์พระอินทร์, ตุ้มหูพระอินทร์, พวงระย้าดอกสร้อยสายเพชร
สร้อยสายเพชร เป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็ก จัดเป็นพืชในวงศ์เดียวกันกับกระเพาะ มักพบเห็นได้ตามป่าเขาที่มีความร่มรื่นใต้ต้นไม้ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินเดีย เนปาล ต่อมาได้แพร่กระจายพันธุ์ไปสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย
ดอก
ออกเป็นช่อที่ปลายยอดและกิ่งก้าน ห้อยลงมาเป็นพวงระย้าสวยงาม ในแต่ละช่อสามารถแตกเป็นช่อย่อยได้อีกหลายช่อ ช่อดอกยาวประมาณ 25 ซม. ซึ่งประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก มีก้านช่อดอกเป็นสีเขียวหรือสีแดงเข้ม มีกลีบรองดอกสีแดงรูประฆัง ที่ส่วนปลายแยกออกเป็น 5 แฉก มีกลีบดอกสีขาวจำนวน 5 กลีบ มีก้านเกสร 5 ก้าน ยื่นออกมาจากกลางดอก ก้านดอกเป็นหลอดเรียวเล็ก ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ บานทนอยู่ได้ไม่นาน เริ่มให้ดอกในช่วงฤดูหนาว กลิ่นของดอกสามารถล่อให้แมลงและผีเสื้อเข้ามาหาได้
ผล
มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม ผิวผลมีสีดำเป็นมัน มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของผลที่โตเต็มที่ประมาณ 2 ซม.
การขยายพันธุ์
ทำได้ด้วยการปักชำกิ่ง การแยกไหลไปปลูก และการเพาะด้วยเมล็ด สร้อยสายเพชร เป็นพืชที่ชอบแสงแดดแบบรำไร ต้องการน้ำในปริมาณมาก แต่ไม่ถึงกับชื้นแฉะหรือมีน้ำท่วมขัง ในช่วงปลูกใหม่ๆ ควรรดน้ำเช้า-เย็นอย่างสม่ำเสมอ แล้วลดลงเหลือสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เมื่อต้นโตเต็มที่แล้ว พืชชนิดนี้สามารถปลูกได้ดีในดินร่วนปนทราย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และสามารถระบายน้ำได้ดี ควรปลูกให้ห่างจากบ้านหรือตัวอาคารประมาณ 1 เมตร หมั่นตกแต่งกิ่ง ให้น้ำ บำรุงต้นอย่าอย่าให้ขาด ก็จะให้ดอกได้มากเป็นพิเศษ หากดินมีสภาพเป็นดินเหนียวและแข็ง ควรทำให้ดินร่วนซุยด้วยการเติมทรายและใบไม้ลงไปเพื่อให้สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี เนื่องจากมีกิ่งที่เปราะหักง่ายจึงไม่ควรปลูกในพื้นที่ที่มีลมแรง
สามารถสั่งซื้อได้ที่ Line:mr_sittiporn หรือ โทร.086-5053390
@ บ้านสวนเศวตเวช https://shopee.co.th/shop/77269086
@ SRI-SAWATAWATCHhttps://www.lazada.co.th/shop/sri-sawatawatch