ค้นหาสินค้า

เชื้อรา 5พิฆาต กำจัด ไข่ หนอนและตัวแมลงศัตรูพืช

ร้าน สวนเกษตรผสมผสาน
เชื้อรา 5พิฆาต กำจัด ไข่ หนอนและตัวแมลงศัตรูพืช
เชื้อรา 5พิฆาต กำจัด ไข่ หนอนและตัวแมลงศัตรูพืช
ชื่อสินค้า:

เชื้อรา 5พิฆาต กำจัด ไข่ หนอนและตัวแมลงศัตรูพืช

รหัส:
271359
ราคา:
350.00 บาท
ที่อยู่ร้าน:
อ.ดอนตูม จ.นครปฐม
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 6 ปี 10 เดือน
ปุ่มติดต่อ:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
รวมสารชีวภัณฑ์5สายพันธุ์กำจัด ไข่ หนอนและตัวแมลงศัตรูพืช
รับรองผลการใข้งาน100%

เชื้อราบิวเวอร์เรีย บาเซียน่าและ เชื้อราเฮอร์ซุเทลลา ทอมโซนี่ สามารถป้องกัน และกำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิเช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยไฟ บั่ว หนอนห่อใบ ในมะม่วงได้แก่ เพลี้ยจักจั่นที่ทำลายช่อมะม่วง แมลงค่อมทอง ในพืชตระกูลส้มได้แก่ เพลี้ยอ่อนส้ม เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยไฟ ไรแดง ในพืชผักได้แก่ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ไรขาว แมลงหวี่ขาว หนอนผีเสื้อต่างๆ ในอ้อยได้แก่ แมลงค่อมทอง เป็นต้น

เชื้อราเมธาไรเซียม แอนนิโซเฟียร์และ เชื้อราคอร์ดีเซปส์ ซิเน็นซีส สามารถป้องกัน และกำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิเช่น เชื้อราเมธาไรเซียม สามารถป้องกัน และกำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิเช่น ปลวก ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ด้วงหมัดผัก ตั๊กแตน เพลี้ยอ่อน เพลี้ยจั๊กจั่น เพลี้ยกรโดดสีน้ำตาล แมลงปากกัดปีกแข็ง หนอนกระทู้คอรวง หนอนกอข้าว หนอนใยผัก หนอนม้วนใบ หนอนหนังเหนียว และหนอนผี้เสื้อต่างๆ

เชื้อราพาซิโลมัยซิส ไลลาซินัส สามารถป้องกัน และกำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิเช่น ไส้เดือนฝอยรากปม (Meloidogyne incognita) ในแง่งพันธุ์ขิงไส้เดือนฝอยรากปม ในผักกาดหอมไส้เดือนฝอยรากปม ในพริกมีประโยชน์ในการป้องกันกำจัด ไข่หอยเชอรี่เพลี้ยแป้งในมันสำปะหลังและ ไข่ของหนอนผีเสื้อหลายชนิด เช่น ไข่ของหนอนใยผัก ไข่ของหนอนกระทู้หอม ไข่ของหนอนเจาะสมอฝ้าย เพลี้ยไฟ ไรแดง และแมลงหวี่ขาว นอกจากนี้ยังมีผลในการป้องกันกำจัดไส้เดือนฝอยรากปม ทั้งใน ระยะไข่ และตัวเต็มวัย หอยทาก สามารถผสมน้ำฉีดพ่นพร้อมกันกับปุ๋ยทางใบ ธาตุอาหารเสริม ฮอร์โมนต่างๆ

วิธีการใช้ : ใช้เชื้อรา5พิฆาตในอัตรา 50กรัม/น้ำ20ลิตร
1.ผสมน้ำ20ลิตรในถังตวง ผสมสารจับใบสำหรับชีวภัณฑ์4-6ซีซีกวนให้เข้ากันตวงเชื้อรา5พิฆาตใส่ลงไป50กรัม(5ช้อนโต๊ะ)กวนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 1ชั่วโมง เทน้ำใสๆหรือเทผ่านกรองเข้าไปในถังฉีดพ่นส่วนกากเลี้ยงเชื้อก้นถังเททิ้งไป ฉีดพ่นได้ทันที
2.ผสมน้ำ100ลิตร ในถังตวง ผสมสารจับใบสำหรับชีวภัณฑ์25ซีซีกวนให้เข้ากันตวงเชื้อรา5พิฆาตใส่ลงไป250กรัม(ครึ่งซอง)กวนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 1ชั่วโมง ตักน้ำใสๆหรือเทผ่านกรองเข้าไปในถังฉีดพ่นฉีดได้ทันที(ใช้เครื่องพ่นสะพานหลังขนาด20ลิตร โดยใช้หลายครั้งแต่ผสมเชื้อครั้งเดียว)
3.ถังผสมมากกว่า100ลิตร เช่น ถังผสม200ลิตร ผสมน้ำ200ลิตร ในถังตวง ผสมสารจับใบสำหรับชีวภัณฑ์50ซีซีกวนให้เข้ากันตวงเชื้อรา5พิฆาตใส่ลงไป500กรัม(หนึ่งซอง)กวนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 1ชั่วโมงฉีดพ่นฉีดได้ทันที(ใช้เครื่องพ่นแบบปั๊มแรงดันสูง)
กลไกการเข้าทำลายแมลงของเชื้อรา5พิฆาต
เมื่อสปอร์ของเชื้อราสัมผัสกับผิวของแมลง ในสภาพความชื้นที่เหมาะสม (ความชื้นสัมพัทธ์ 70 % ขึ้นไป) จะงอกเส้นใยแทงผ่านผิวหนังเข้าไปในลำตัวแมลง แล้วขยายจำนวนเจริญอยู่ภายในโดยใช้เนื้อเยื่อของแมลงเป็นอาหาร แมลงจะตายในที่สุด ภายในระยะเวลาต่างๆ ขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด และวัยของแมลง โดยทั่วไปประมาณ 3 – 14 วัน เชื้อรา5พิฆาต สามารถนำมาใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืชที่สำคัญในพืช เศรษฐกิจหลาย
เชื้อรา5พิฆาต เป็นเชื้อราที่สามารถให้เกิดโรคได้กับแมลงได้หลาย ชนิด โดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และหนอนศัตรูพืช เนื่องจากสปอร์ของเชื้อรา5พิฆาต ที่ตกที่ผนังลำตัวแมลง เมื่อมีสภาพที่เหมาะสมสปอร์จะงอกแทงทะลุผ่านลำตัวแมลงเข้าไปไชช่องว่างภายใน ลำตัวและเจริญเติบโตเป็นเส้นใยท่อนสั้นๆ ทำลายเซลล์เม็ดเลือดในตัวของแมลง ทำให้แมลงเป็นอัมพาตและตายไปในที่สุด หลังจากแมลงตายแล้วเชื้อราจะสร้างสปอร์แพร่กระจายได้ตามแมลงศัตรูข้างเคียง เพราะสามารถทำลายแมลงได้ทุกระยะ
การเข้าทำลายแมลงของเชื้อรา5พิฆาต
สปอร์เชื้อราตกติดอยู่กับผนังลำตัวแมลงเข้าสู่ตัวแมลงทางผนังลำตัว รูหายใจ บาดแผลบนผนังลำตัว ความชื้นเหมาะสมกับการงอก สปอร์จะแทงทะลุผิวหนังลำตัว เชื้อราจะงอกสู่ช่องว่างลำตัวแมลงเจริญเติบโตสร้างเส้นใยมากมายทำลายแมลงเมื่อแมลงตาย เส้นใยจะแทงผ่านผนังลำตัวแมลงออกสู่ภายนอกตัวแมลงสปอร์จะแพร่กระจายไปตามลม ฝนหรือติดกับตัวแมลง เชื้อราจึงสามารถขยายพันธุ์ต่อได้ และเมื่อสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็จะทำลายแมลงศัตรูต่อไป
ลักษณะอาการของแมลงที่ถูกเชื้อรา5พิฆาต เข้าทำลาย
แมลงที่ถูกทำลายจะแสดงอาการของการเป็นโรคคือ เบื่ออาหาร กินน้อยลง อ่อนเพลียและไม่เคลื่อนไหว
สีผนังลำตัวแมลงมักจะเปลี่ยนไป ปรากฏจุดสีดำบนบริเวณที่ถูกเชื้อราเข้าทำลาย พบเส้นใย และผง ของสปอร์ปกคลุมตัวแมลงหรือแห้งตายเนื่องจากถูกเชื้อราเข้าทำลาย
การใช้เชื้อรา5พิฆาต ควบคุมศัตรูพืชอย่างถูกต้อง
เนื่องจากเชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิต การนำไปใช้จะได้ผลหรือไม่ ต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องหลายอย่าง ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น แสงกับช่วงเวลา และตัวของแมลงเอง อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับเชื้อรา5พิฆาต ที่จะทำให้เชื้อรางอกสปอร์ได้ดี จะอยู่ในระหว่าง 25-27 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิสูงกว่านี้ และความชื้นในพื้นที่ไม่มากพอสปอร์จะไม่เจริญเติบโตและเสื่อมคุณภาพ พ่นกำจัดแมลงหรือเพลี้ยก็จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ความชื้น ความชื้นที่เหมาะสมสำหรับพ่นเชื้อรา5พิฆาต ต้องมีความชื้นสูงมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
ความชื้นที่เหมาะสมที่สุด คือช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ในบรรยากาศมีความชื้นสูง เนื่องจากความชื้นจะไปกระตุ้นให้สปอร์งอกออกมาและแทงทะลุผ่านเข้าไปในตัวแมลงหรือตัวเพลี้ย แต่ถ้าจะพ่นในช่วงฤดูฝนต้องดูว่าช่วงนั้นเพลี้ยระบาดหรือเปล่า เพราะโดยธรรมชาติฝนจะช่วยลดการระบาดของแมลงศัตรูพืชอยู่แล้ว หากแมลงระบาดในช่วงแล้ง ซึ่งอุณหภูมิและความชื้นไม่เหมาะต่อการพ่นเชื้อรา ดังนั้นเกษตรกรจะต้องมีความเข้าใจในธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั้งสองชนิดนี้ จึงจะสามารถใช้เชื้อราให้เกิดประสิทธิผล ในกรณีที่มีพื้นที่เกษตรแห้งมากเกินไปเกษตรกรต้องทำการรดน้ำแปลงเกษตรก่อนฉีดพ่นเชื้อรา5พิฆาตทุกครั้ง
แสงกับช่วงเวลา
การที่จะพ่นเชื้อรา5พิฆาต ให้ได้ผล คือ ต้องเป็นช่วงเวลาเย็นที่อากาศมีความชื้นสูงและอุณหภูมิต่ำ การที่เลือกเวลาพ่นเชื้อราในตอนเย็น ก็เพื่อไม่ให้โดนแสงแดด เพราะแสงแดดจะทำให้เชื้อราเสื่อมคุณภาพเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับ เพลี้ยแป้งซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวของมันเอง คือ มีแป้งคลุมตัวอีกชั้นหนึ่ง การพ่นเชื้อรากว่าสปอร์จะทะลุเข้าไปถึงตัวชั้นใน จะต้องผ่านแป้งที่คลุมอยู่อีกหนึ่งชั้น ดังนั้นการใช้เชื้อรากำจัดเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังจึงยากกว่าการกำจัดเพลี้ยธรรมดา และระยะที่เหมาะสมกับการพ่นเชื้อรา คือ ช่วงระยะตัวอ่อน ซึ่งเพลี้ยแป้งยังไม่มีแป้งมาปกคลุมลำตัว
การฉีดพ่นเชื้อรา5พิฆาต
การพ่นเชื้อรา5พิฆาต เพียงครั้งเดียวอาจไม่ได้ผล ต้องพ่นซ้ำ 2-3 ครั้งขึ้นไป และควรพ่นในช่วงที่แมลงยังตัวเล็กๆ การพ่นต้องให้ถูกตัวแมลงด้วย เนื่องจากเชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิต การออกฤทธิ์ของเชื้อราไม่เหมือนสารเคมีซึ่งสามารถดูดซึมผ่านไปยังเนื้อเยื่อได้ เมื่อแมลงมาดูดกินก็จะได้รับสารเคมีทำให้แมลงตาย ในกรณีที่แมลงเกาะอยู่ใต้ใบ หากพ่นเชื้อราไปตกอยู่บนใบ เชื้อราจะไม่ออกฤทธิ์ฆ่าแมลงได้ ดังนั้นการพ่นเชื้อราต้องให้สปอร์ไปตกหรือถูกตัวแมลงเท่านั้นจึงจะทำลายแมลงได้ อย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงช่วงเวลา แสง อุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสมดังกล่าวเป็นสำคัญ สปอร์จึงจะงอกเส้นใยออกมาแทงทะลุเข้าไปในตัวแมลงได้
การใช้อุปกรณ์พ่นเชื้อราเชื้อรา5พิฆาต
สามารถใช้อุปกรณ์ตัวเดียวกับพ่นสารเคมีได้ แต่จะต้องเปิดรูหัวฉีดให้กว้างขึ้น ถ้าเราไม่ปรับหัวฉีดให้รูกว้างขึ้น อาจทำให้อุปกรณ์ส่วนอื่นอุดตันได้ โดยเฉพาะที่หัวฉีด เพราะการใช้เชื้อราพวกนี้ต้องการความชื้นมาก จึงจำเป็นต้องเปิดรูให้กว้างขึ้น ปริมาณน้ำที่ใช้ผสมจะต้องมากกว่าการพ่นสารเคมี จึงจะทำให้มีความชื้นมากและต้องพ่นให้เปียกโชก ควรผสมสารจับใบสำหรับชีวภัณฑ์ด้วยเพื่อให้สปอร์เกาะพืชดีขึ้น ในกรณีที่เกษตรกรใช้เครื่องฉีดพ่นแบบปั๊มแรงดันสูงมักไม่ค่อยมีปัญหาเนื่องจากปริมาณการให้น้ำนั้นมากกว่าการใช้เครื่องฉีดพ่นแบบมือโยก
ดังนั้น เกษตรกรที่จะใช้เชื้อราในการป้องกันกำจัดเพลี้ยหรือแมลงศัตรูพืช จะต้องศึกษาและเข้าใจในธรรมชาติของเชื้อรา และแมลงศัตรูพืชแต่ละชนิด และใช้ให้ถูกวิธีการกำจัดจึงจะได้ผล
ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.kasetkawna.com หรือ สอบถามได้ที่ Line id:@kaset แก้ไขข้อมูลเมื่อ 10 Feb 23 07:19