ค้นหาสินค้า

เยอบีร่ามีกี่สายพันธุ์

พันธุ์เยอบีร่า
           1.สายพันธุ์ไทย เป็นพันธุ์ที่พัฒนามาจากพันธุ์ดั้งเดิมที่นำเข้ามาปลูก มีลักษณะกลีบดอกแคบยาวซ้อนลดหลั่นลงมา มีสีสันไม่ค่อยสดใสนัก บางพันธุ์อาจมีกลีบดอกเป็นฝอย เรียกว่าหน้ายุ่ง ก้านดอกเล็กและสั้น ใบมีขนาดเล็ก ปรับตัวเขากับสภาพอากาศของภาคกลางได้ดีแต่มีอายุการปักแจกันสั้น เช่น
          - กลุ่มดอกสีขาว        : พันธุ์ขาวจักรยาว, ขาวจักรสั้น
          - กลุ่มดอกสีเหลือง    : พันธุ์เหลืองถ่อ, เหลืองพังสี
          - กลุ่มดอกสีชมพู       : พันธุ์บัวหลวง,มณฑา
          - กลุ่มดอกสีแสด       : พันธุ์สุรเสน,จำปา
          - กลุ่มดอกสีแดง        : พันธุ์แดงลักแทง,แดงตาเปิ่น
          2. สายพันธุ์ยุโรป มีดอกชั้นเดียว ซ้อนหรือกึ่งซ้อน กลีบดอกกว้างกว่าสายพันธุ์ไทย 2-3 เท่า กลีบดอกหนา ก้านดอกใหญ่ยาวและแข็งแรง มีอายุการปักแจกันนาน ใบมีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์ไทย ใจกลางดอกใหญ่ส่วนมากจะเป็นสีเหลือง หากเป็นสีดำหรือน้ำตาลเข้มเรียกว่า ไส้ดำ
เยอบีร่าสายพันธุ์ยุโรปอาจแบ่งย่อยตามการซื้อขายในตลาดโลก ได้ดังนี้
          - ดอกชั้นเดียว มีกลีบดอกกว้างป้อมชั้นเดียวและหนาเยอบีร่าประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงมากใน ปัจจุบัน เช่น พันธุ์เออบานัสเทอร่าเฟม(ดอกสีเหลือง) , แปซิฟิก(ดอกสีชมพู), เซมิน่า(ดอกสีแดง)
          - ดอกซ้อนและกึ่งซ้อน มีกลีบดอกหลายชั้น เช่น พันธุ์วิเซิด ( ดอกสีชมพู แดง/ขาว) , ฟิกาโร (ดอกสีชมพู) , เทอร่าสปิริท (ดอกสีแสดแดง) , อิมพาล่า ( ดอกสีขาว)
          - ไส้ดำ เช่น พันธุ์เออบานัส (ดอกสีทองแดง) , แพนเทอร์(ดอกสีแดง) ,ริจิลิโอ (ดอกสีแดง), เล็บเพิด (ดอกสีเหลือง), ฟลามิงโก้ (ดอกสีชมพู)
          3. สายพันธุ์อเมริกาและสายพันธุ์ออสเตรเลีย ลักษณะของกลีบดอกแคบยาวใจกลางดอกมีขนาดเล็กก้านดอกเล็กยาวคุณภาพและอายุการปักแจกันสู้พันธุ์ยุโรปไม่ได้

คำสำคัญ: เยอบีรา