ค้นหาสินค้า

วิธีการเลือกซื้อไม้ดอกหอม

    1. ประเภทของต้นไม้  การเลือกซื้อไม้ต้นใหญ่ -เล็ก ไม้พุ่ม หรือไม้เลื้อย  ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับพื้นที่ว่างของบริเวณบ้าน  และไม่ควรปลูกชิดแนวรั้ว  เพราะหากไม้ดอกหอมโตเต็มที่แล้ว จะมีทรงพุ่มใหญ่โต  หรือ รกรุงรัง  เป็นปัญหาต่อบ้านของเรา หรือบ้านข้างเคียงได้  จำเป็นต้องตัดแต่งทรงพุ่มอยู่เสมอ    
   
    2. ทำเลที่จะปลูก  หรือที่เรียกว่าฮวงจุ้ย  หากปลูกทางทิศตะวันออก หรือ ตะวันออกเฉียงเหนือ  ควรเลือกซื้อไม้ดอกหอมที่ออกดอกในช่วยฤดูหนาว  และถ้าปลูกทางทิศตะวันตก หรือตะวันตกเฉียงใต้  ควรเลือกซื้อไม้ดอกหอมที่ออกดอกในช่วงฤดูฝน  เพื่อให้ลมพัดกลิ่นเข้าบ้านเรา  แต่หากปลูกผิดที่แล้ว ลมจะพัดกลิ่นหอมไปให้บ้านที่อยู่ข้างเคียง    
   
    3. ลักษณะของกลิ่นหอม  ท่านชอบกลิ่นหอมลักษณะใด หอมแรง  หอมหวาน  หอมอ่อนๆ  กลิ่นเบาบางสบายๆ  บางชนิดมีกลิ่นค่อนข้างหนัก  อาจทำให้เวียนศีรษะได้  เช่น ราตรี  บุหงาส่าหรี  แก้ว  จึงต้องเลือกซื้อไม้ดอกหอมที่ให้กลิ่นที่ชอบ  สำหรับกลิ่นหอมที่ฉุนเกินไปอาจแก้ไขได้โดยปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน  หรือหมั่นตัดแต่งกิ่ง  ควบคุมไม่ให้ออกดอกมากนัก    
   
    4. ช่วงเวลาที่ส่งกลิ่นหอม  ส่วนใหญ่แล้วไม้ดอกหอมให้กลิ่นหอมแรงในช่วงพลบค่ำ  เช่น กระดังงาสงขลา  พุด  จำปา  บางชนิดหอมช่วงเช้า  เช่น กลาย  สายหยุด  มะลิ  จึงต้องเลือกซื้อให้ถูกต้อง  และควรเลือกซื้อไม้ดอกหอมในช่วงเช้าก่อน 10.00 น.  หรือช่วงเย็นประมาณ 17.00 น.  ก็จะได้กลิ่นหอมของดอกไม้อย่างแน่นอน    
   
    5. หอมจริง หรือไม่  บางชนิดมีทั้งพันธุ์ดอกหอม  และไม่หอม เช่น กลาย  บุหงาเชิง  มหาพรหม  ทางที่ดีควรดมดอกก่อนซื้อ  ถ้าไม่มีดอกก็อย่าซื้อ  หรือหากไปเลือกซื้อในช่วงกลางวันที่ไม่ค่อยมีกลิ่นหอมมากนัก  ควรสังเกตจากลักษณะดอกที่มีอยู่ว่าเป็นชนิดเดียวกับที่ต้องการจริงๆ    
   
    6. ฤดูดอกยาวนาน  ควรเลือกซื้อไม้ดอกหอมที่ออกดอก ได้ตลอดปี  หรือออกดอกได้ปีละหลายเดือน หากมีพื้นที่ปลูกเพียง 1 ต้น  ก็ไม่ควรปลูกต้นที่ออกดอกเพียง 1 สัปดาห์ในรอบปี    
   
    7. สภาพแสง  ไม้ดอกหอมบางชนิดต้องอยู่กลางแจ้งเท่านั้นจึงจะออกดอก เช่น จำปี  มะลิ  กุหลาบ  หอมเจ็ดชั้น  แต่บางชนิดปลูกกลางแจ้งไม่ได้ เช่น    เดหลีใบกล้วย  จำปูน  แสดสยาม  ม่วงทักษิณ  และไม้ดอกหอมหลายชนิดต้องปลูกในที่กึ่งแดด กึ่งร่ม หรือ รำไร  จึงจะออกดอกได้ดี    
   
    8. ระดับความสูงของพื้นที่  ไม้ดอกหอมบางชนิดชอบอากาศหนาวเย็น เช่น หอมหมื่นลี้  มณฑา-ดอย  มณฑาป่า  จำปาหลวง  จึงควรปลูกในพื้นที่สูง  แต่บางชนิดชอบอากาศร้อน  ชอบอยู่ในพื้นที่ราบ  จึงจะออกดอกได้ดี  เช่น ตะลุมพุก  พุดซ้อน  มะลิลา  มิลิซ้อน    
   
    9. ระดับความชื้น  บางชนิดชอบพื้นดินชื้นมาก ทนแฉะได้ดี  เช่น จำปีสิรินธร  เดหลีใบกล้วย  แต่บางชนิดต้องอยู่ในที่แห้งแล้ง  จึงจะออกดอกได้เต็มต้น  เช่น สะแล้งหอมไก๋  หมักม่อ  มะป่วน หรือ นมหนู  ช้างน้าว    
   
    10. สภาพของต้นไม้ หากต้องขนส่งในระยะไกล  ควรเลือกซื้อต้นไม้ที่มีใบแก่  หรือต้นที่อยู่ในสภาพพักตัว  เมื่อนำไปปลูกแล้วจะแตกยอดอ่อน แตกใบอ่อนในทันที  แต่ถ้าเลือกต้นที่แตกใบอ่อนจำนวนมากไปปลูก จะเหี่ยวเฉา และทรุดโทรมหลังปลูกได้ง่าย    
   
    11. ไม้ขุดล้อมขนาดใหญ่  ควรสอบถามราคาของต้นไม้ พร้อมค่าขนส่ง ค่าปลูก และ การรับประกันพรรณไม้ก่อนการตัดสินใจซื้อ  จะช่วยให้เราได้ต้นไม้ที่สมบูรณ์  และสามารถขอเปลี่ยนต้นใหม่ได้หากมีการตายเกิดขึ้น    
   
    12. ราคาของต้นไม้  ควรสอบถามจากหลายๆ ร้าน  แล้วพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ขนาดของต้น  ความสมบูรณ์ของต้น  ทรงพุ่มสวยงามหรือไม่  มีโรคแมลงหรือไม่  หากเป็นต้นขุดล้อมควรพิจารณาให้ดี  การปลูกจากต้นเล็กๆ นอกจากจะประหยัดเงินแล้ว  ยังได้ความภาคภูมิใจที่ได้ดูแลมากับมือ  และสุขใจเมื่อเห็นต้นไม้เจริญงอกงาม

คำสำคัญ: