ค้นหาสินค้า

ไทยแลนด์ 4.0 ทางรอดเกษตรกร...ลดพืชเชิงเดี่ยว หันมาฟื้นฟูไร่นาสวนผสม ตามแนวทฤษฎีพ่อหลวงรัชกาลที่ 9


โดย ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ

และแล้ววันนั้นก็มาถึง...วันที่ยางพาราถึงทางตันกิโลนึงไม่ถึง 60บาท แทบจะไม่พอปะทังชีวิตในแต่ละวัน อันจะหันไปปลูกปาล์มน้ำมันเหมือนๆชาวบ้านเขา ใจก็กล้าๆกลัวๆว่าวันหนึ่งจะล้นตลาดเป็นอย่างยางพารา ก็คงเหลืออยู่ 2 ทาง คือไม่เป็นกรรมกรรับจ้างก็ปลูกมันเสียทุกอย่าง อย่างละนิดอย่างละหน่อย กินไปด้วยขายไปด้วยพอให้มีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายทั้งปี อย่างที่ท่านผู้นำว่าเราๆท่านๆต้องช่วยกัน! ลดต้นทุนการผลิต ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 "ปลูกในสิ่งที่กิน เหลือกินก็แจก เหลือแจกก็แลก เหลือแลกก็ขาย" จริงๆราคายางพาราสี่สิบห้าบาทเกษตรกรยังพออยู่ได้นะครับ แต่ที่อยู่ไม่ได้ก็เพราะค่าครองชีพมันสูงขึ้นเสมือนเงาตามตัว หากปล่อยให้เป็นยังงี้เรื่อยๆเกษตรกรระดับรากหญ้าก็จะอยู่ไม่รอด    
   
กาลจะให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก รัฐบาลเองก็ต้องช่วยเกษตรกรควบคุมราคาค่าครองชีพด้วย โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐานในครัวเรือนอย่างเนื้อหมู เนื้อไก่ ข้าวสาร กะปิ น้ำปลา น้ำมันฯลฯ ที่วางขายตามท้องตลาด วิธีนี้สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเกษตรกรลงได้ในระดับหนึ่ง โดยที่รัฐบาลไม่เสียดุลการค้าใดๆเลย ทั้งยังส่งเสริมให้สินค้าทุกประเภทสามารถขยับหมุนเวียนไปได้ด้วย การไปลดราคาปุ๋ย ราคายา ไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน เผลอๆเท่ากับส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีมากยิ่งขึ้นเพราะเห็นว่าราคาถูกซื้อได้เยอะ ผู้เขียนว่า...มีแต่โทษส่วนประโยชน์ไปตกอยู่ที่บริษัทขายปุ๋ยขายยามากกว่า...ลองคิดดูดีๆซิครับเกษตรกรท่านใดที่คิดจะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ฯลฯ เวลานี้คิดให้ดีให้รอบคอบก่อนลงมือ    
   
มิเช่นนั้นท่านจะเสียเวลา เสียทรัพย์ไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่างที่ผู้เขียนกล่าวไว้ข้างต้นทางรอดใดที่เราพอจะช่วยตัวเองได้ก็ทำก่อน หนึ่งในนั้นก็คือปลูกหรือเลี้ยงทุกอย่างที่เรากินเราใช้ก่อนอย่างละนิดอย่างละหน่อย เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ต้องไปซื้อหาจากภายนอกเข้า ยกตัวอย่างเช่น พืชผัก ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก ปลาฯลฯ ค่อยๆแปลสภาพจากที่เคยปลูกพืชเชิงเดียวอย่าง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ มาก่อนหน้าเป็นไร่นาสวนผสม หรือสวนสมรมในภาคใต้ ที่ดินแปลงหนึ่งหรือผืนหนึ่งมากหรือน้อยไม่สำคัญ ถ้าเราปลูกหรือเลี้ยงมันทุกอย่าง โอกาสที่เราต้องออกไปตระเวนหาซื้อตามท้องตลาดก็มีน้อย ประหยัดทั้งเวลา ค่าโดยสาร ค่าน้ำมันรถฯลฯ ที่สำคัญได้ของใหม่ๆและสดทุกวัน ลองคิดดูซิครับว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของท่านได้ซักเท่าไหร่? ผู้เขียนและชมรมเกษตรปลอดสารพิษ เรายินดี...ที่จะเดินเคียงข้างคุณ พร้อมให้คำปรึกษาให้คำแนะนำ ตามแนวทางเกษตรปลอดสารพิษ ขอแค่ท่านโทรศัพท์ไปที่ฝ่ายวิชาการของชมรมเกษตรปลอดสารพิษ (02-9861680-2) หรือผู้เขียน (081-3983128)    
   
เขียนและรายงานโดย : คุณเอกรินทร์ ช่วยชู (นักวิชาการชมรมฯ)    
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com    
เสนอแนะติชมได้ที่ email : [email protected]        
http://www.thaigreenagro.com/Aticle.aspx?id=21466&Param2=13

คำสำคัญ: อุปกรณ์เกษตร