การทำนาปลอดสารพิษ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ของเกษตรกรเมืองชาละวัน

ในบทความตอนนี้นำข้อมูลของเกษตรกรที่ทำนาปลอดสารพิษแล้วประสบผลสำเร็จในการทำนา ได้ทั้งผลผลิตที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ลดต้นทุนการทำ และที่สำคัญปลอดภัยกับตัวเองด้วยเพราะต้องฉีดยาเอง เรามาดูข้อมูลการทำนาปลอดสารพิษของเกษตรกรท่านนี้กันเลยครับ เกษตรกรตัวอย่างของเราชื่อ คุณธนาชัย สุขสิน เกษตรกรทำนาอยู่ 40 ไร่ที่ตำบลห้วยร่วม อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร คุณธนาชัยยึดอาชีพทำนานี้มาเกือบ 20 ปีแล้ว วิธีทำก็ยึดถือแนวเคมีเป็นหลัก คือการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว เมื่อประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคหรือแมลงศัตรูข้าวก็จะใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัด แต่เนื่องจากต้องฉีดยาเองบวกกับอายุที่มากขึ้น ทำให้เริ่มฉีดยาเคมีไม่ไหวแล้ว เลยคิดอยากจะเปลี่ยนแนวการทำนาหันมา ลด ละ เลิก การใช้ยาเคมี หันมาทำแบบปลอดสารพิษบ้าง ก็เลยลองหาข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานที่จะมาแนะนำวิธีการลดใช้สารเคมี พอดีมาเจอบทความเกี่ยวกับการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษของทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษที่ลงไว้ตามนิตยสารเกษตรหลายๆเล่ม ก็เลยสนใจและได้โทรเข้ามาปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของชมรมแล้วเกิดความสนใจแนวทางการทำนาปลอดสารพิษของทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษ    
   
เลยนำไปปรับใช้ในแปลงนาของตัวเอง วีธีการทำนาของคุณธนาชัยโดยสรุปแบบย่อคร่าวๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายได้ดังนี้ เริ่มด้วยการเตรียมดินใช้หินแร่ภูเขาไฟ “พูมิชซัลเฟอร์” หว่านรองพื้นตอนทำเทือกไร่ละ 40 กิโลกรัม ตอนหว่านข้าวก็หว่านแค่ไร่ละ 2 ถัง การใส่ปุ๋ยก็ใส่ปุ๋ยน้อย ใส่เท่าที่ข้าวต้องการ โดยปุ๋ยที่ใส่จะทำเป็นปุ๋ยละลายช้าโดยใช้พูมิชซัลเฟอร์คลุกปุ๋ยก่อนหว่านทุกครั้งเพื่อให้ปุ๋ยละลายช้าให้ข้าวมีปุ๋ยกินไปนานๆเป็นเดือนๆ อาหารเสริมทางฉีดทางใบหรือเรียกง่ายๆว่าฮอร์โมน ก็จะใช้ธาตุอาหารเสริมของชมรมฯ คือ ปุ๋ยเกร็ด46-0-0 ซิลิโคเทรซ ไวตาไลเซอร์ ไคโตซาน ไรซ์กรีนพลัส ฮอร์โมนไข่ ฉีด 3 ครั้งช่วงข้าว 20 วัน,ข้าว 60 วัน และก็ช่วงข้าวรวงแรกโผล่ ส่วนปัญหาเรื่องโรคและแมลงก็จะใช้ จุลินทรีย์รักษาโรคพืชและสารสกัดสมุนไพรเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น เพลี้ยกระโดดที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้แต่แปลงนาของคุณธนาชัยไม่มีปัญหาเพราะใช้เชื้อราบิวเวอร์เรียร่วมกับผงสมุนไพรรวมไทเกอร์เฮิร์บเป็นตัวป้องกันกำจัด ปัญหาเรื่องเชื้อราข้าวทั้งโรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคเน่าคอรวง เมล็ดด่างเมล็ดลายก็จะใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่าเป็นตัวป้องกันกำจัด    
   
ปัญหาเรื่องหนอนก็ใช้จุลินทรีย์สายพันธุ์บีทีร่วมกับสารสกัดสมุนไพรก็สามารถคุมหนอนได้ ทางผู้เขียนเองได้เก็บข้อมูลของคุณธนาชัยทุกเดือนจนกระทั้งเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ข้อมูลดังนี้ คุณธนาชัยแจ้งกับผู้เขียนว่าการทำนาเที่ยวนี้ต่าง จากที่เคยทำโดยสิ้นเชิงเริ่มตั้งแต่ดินในนาจะมีความนุ่มฟูและดินโปร่ง ต้นข้าวมีความแข็ง ใบแข็ง กอข้าวแข็ง ข้าวไม่ล้ม รากข้าวจะขาวและยาวกว่าเดิม แต่ที่น่าแปลกใจคือข้าวที่ทำต้นจะไม่สูง ต้นเตี้ยๆจนชาวบ้านใกล้เคียงแซวว่าข้าวต้นแบบนี้จะได้ข้าวกินมั้ย แต่พอตอนเก็บเกี่ยวข้าวมา ได้ข้าวไร่ละ 95 ถังทำเอาชาวบ้านแถบนั้นที่เคยสบประมาทไว้ตกใจกันเป็นแถว คุณธนาชัยเองก็ตกใจเหมือนกันไม่คิดว่ามันจะได้ขนาดนี้ จากเดิมที่เคยทำมาได้เต็มที่ไร่ละไม่เกิน 80 ถัง และเมื่อเปรียบเทียบเรื่องต้นทุนเที่ยวนี้จะถูกกว่าที่เคยทำประมาณไร่ละ 2000 บาท ต้นทุนต่อไร่อยู่ที่ประมาณไร่ละ 3000 บาท แต่เรื่องที่คุณธนาชัยพอใจมากที่สุดก็คือเรื่องสุขภาพเพราะหันมาทำแบบปลอดสารพิษแล้วสุขภาพดีขึ้นไม่ต้องคอยเหม็นเวลาฉีดยาเหมือนแต่ก่อนแล้ว ตอนนี้สามารถใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ไม่ต้องปิดหน้าปิดตาเหมือนแต่ก่อนแล้ว ตอนนี้ คุณธนาชัย สุขสิน ได้ยึดแนวทางการทำนาปลอดสารพิษเช่นเดิม ตามสโลแกนที่ว่า ทำนาปลอดสารพิษ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ชีวิตยืนยาว ท่านสมาชิกท่านอื่นๆที่สนใจทำนาปลอดสารพิษลดต้นทุนสามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจะขอเอกสารการทำนาปลอดสารพิษลดต้นทุน ได้ที่นายจตุโชค จันทรภูมี(ผู้เขียน) หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการของชมรมเกษตรปลอดสารพิษได้ที่เบอร์ 029861680-2 หรือสอบถามทางระบบ LINE ID : tga003 และ tga004    
   
เขียนและรายงานโดย : คุณจตุโชค จันทรภูมี(นักวิชาการชมรมฯ)    
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com    
แนะนำติชม : [email protected]    
Credit : http://www.thaigreenagro.com/Aticle.aspx?id=21379&Param2=14