ประโยชน์ของต้นหมากผู้หมากเมีย
- ช่อดอก นำมาลวกกินกัยน้ำพริก หรือนำไปแกงได้
- ใบ ช่วยบำรุงร่างกายและผิวพรรณ
- ดอก นำมาบูชาพระ
- นิยมนำมาใช้ปลูกเป็นไม้ประดับลงกระถางเพื่อประดับภายในอาคาร สวนหย่อม ริมน้ำตก ลำธาร หรือริมทะเล
ขายหมากผู้หมากเมีย พันธุ์หมากผู้หมากเมีย สอนการเพาะปลูกและสรรพคุณที่เป็นประโยชน์
- ช่อดอก นำมาลวกกินกัยน้ำพริก หรือนำไปแกงได้
- ใบ ช่วยบำรุงร่างกายและผิวพรรณ
- ดอก นำมาบูชาพระ
- นิยมนำมาใช้ปลูกเป็นไม้ประดับลงกระถางเพื่อประดับภายในอาคาร สวนหย่อม ริมน้ำตก ลำธาร หรือริมทะเล
- การเพาะเมล็ด โดยจะใช้เมล็ดจากต้นแก่ มาเพาะในถุงหรือในกระถาง วิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากต้องใช้เวลานานกว่าหมากผู้หมากเมียจะออกดอก และติดเมล็ดให้เห็น โดยจะออกดอกในต้นที่มีอายุมากกว่า 1 ปี ขึ้นไป
- การตอนกิ่ง โดยโดยใช้ต้นแม่พันธุ์ที่มีกิ่งหรือเหง้าจำนวนมาก ใช้ใบมีดกรีดรอยแผลตามความยาวของกิ่ง ยาว 1-1.5 นิ้ว ลึกถึงเนื้อไม้ 3-5 รอยรอบกิ่ง จากนั้นใช้ขุยมะพร้าวหุ้มกิ่งตอน มัดด้วยเชือกให้แน่น รากหลังการตอนจะงอกประมาณ 3-4 สัปดาห์
- การปักชำ เลือกต้นพันธุ์ที่แข็งแรง โดยเลือกต้นพันธุ์ที่ไม่แก่และอ่อนจนเกินไป ให้สังเกตว่าแม่พันธุ์จะมีกิ่งและเหง้าเป็นจำนวนมาก โดยตัดลำต้นเป็นท่อนยาว ทารอยแผลด้วยปูนแดง หรือสารป้องกันกำจัดเชื้อรา และจุ่มฮอร์โมนเร่งราก ผึ่งให้รอยแผลแห้ง นำไปปักชำในแปลงเพาะชำหรือในกระถางชำ โดยวางกิ่งชำในแนวนอนหรือในแนวตั้ง เมื่อนำกิ่งลงกระถางและกลบดินเรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำใบไม้แห้งมาปิดคลุมดิน แล้วนำไปวางในบริเวณที่ร่ม รดน้ำพอชื้น เมื่ออายุครบ 1 เดือน รากจะงอกเต็มที่
- การแยกเหง้า สามารถทำได้โดยการขุดแยกเหง้าที่แตกออกมาจากต้นแม่มาแยกเป็นต้นใหม่ หรือมาแยกปลูกใหม่
ลำต้น : เป็นไม้พุ่ม ลำต้นรูปทรงกระบอกยาว แตกเป็นกอ
ใบ : เป็นใบเดี่ยว ใบบนตั้งขึ้น ใบล่างโค้งลู่ลงเล็กน้อย รูปขอบขนาน รูปใบหอก ปลายเรียวแหลม โคนสอบมน ขอบเรียบ ใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ก้านใบเป็นกาบ สีม่วงอมน้ำตาล บริเวณโคนก้านใบห่อหุ้มลำต้น ขอบใบสีม่วงอมน้ำตาลตลอดแนวขอบใบ แผ่นใบสีเขียวปนสีม่วง เส้นกลางใบและเส้นใบ สีม่วงอมน้ำตาล
ดอก : ออกดอกเป็นช่อเชิงลดบริเวณปลายยอด ดอกสีชมพูหรือม่วง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cordyline fruticosa (L.) A.Chev ชื่อภาษาอังกฤษ : Cabbage palm , Good luck plant , Palmm lily , Red dracaena , Polynesian , Ti plant ชื่ออื่นๆ : มะผู้มะเมีย, หมากผู้ ลำต้นเป็นไม้พุ่ม ลำต้นเดี่ยวรูปทรงกระบอกยาว หรืออาจแตกกอในบางสายพันธุ์ ตามลำต้นมีรอยการติดใบรอบๆ ลำต้น หมากผู้หมากเมียมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น พันธุ์เพชรชมพู เพชรสายรุ้ง เพชรพนมรุ้ง เพชรประกายรุ้ง เพชรเจ็ดสี เพชรดารา เพชรน้ำหนึ่ง เพรชไพลิน เพชรไพลินกลาย เพชรตาแมว เพชรอินทรา เพชรเขื่อนขันธุ์ เพชรไพฑูรย์ เพียงเพชร พุ่มเพชร เปลวสุริยา รัศมีเพชร รุ้งเพชร ชมพูศรี ชมพูพาน สไบทอง ไก่เยาวลักษณ์ พันธุ์แคระ เป็นต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ใบรูปยาวรี ปลายใบแหลม ก้านใบยาว ลักษณะของใบและสีของใบก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายยอด ช่อดอกยาว ดอกมีสีเหลือง แดง ม่วง (ตามสายพันธุ์) ออกดอกตลอดปี ผลรูปทรงกลมสีแดง ฉ่ำน้ำ เมล็ดรูปโค้ง สีดำ
โดยการปักชำ ,การแยกเหง้า , การตอนกิ่ง และการเพาะเมล็ด
ปลูกง่ายเจริญเติบโตได้ทุกสภาพดิน ต้องการน้ำปานกลาง ชอบแดดรำไร เจริญเติบโตเร็ว
แก้ไข้ แก้ตัวร้อน ใช้ขับพิษหัวไข้ แก้หวัด แก้ท้องเสีย แก้บิด
เป็นไม้มงคล บ้านใดปลูกต้นหมากผู้หมากเมียไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะทำให้มีความอยู่เย็นเป็นสุข
ดอกตูมนำไปลวกทั้งแบบสด กินเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือนำไปใส่แกงแค ดอกนำมาใช้บูชาพระ ใบของหมากผู้หมากเมียใช้ในการประกอบในงานพิธีต่างๆ เช่น ใช้เป็นเครื่องบูชาพระ งานขึ้นบ้านใหม่ งานแต่งงาน เป็นต้น นิยมนำมาใช้ปลูกเป็นไม้ประดับลงกระถางเพื่อประดับภายในอาคาร หรือจะปลูกไว้ในสวนที่มีแสงปานกลางถึงรำไรเพื่อเป็นจุดเด่นให้กับสวนหย่อม ริมน้ำตก ลำธาร หรือริมทะเล