ลักษณะพฤกษศาสตร์ของพยอม (3733)
ชื่อวงศ์: DIPTEROCARPACEAE
ชื่อสามัญ: White - Meranti
ชื่อพื้นเมือง: ขะยอม พยอมทอง ภูริง เชียงเชี่ยว กะยอม แคน
ลักษณะทั่วไป:
ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15 - 30 เมตร ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกหนา สีน้ำตาล หรือเทา แตกเป็นร่องตามยาวลำต้น
ใบ ใบเดี่ยวรูปขอบขนานแคบ ๆ ขนาดกว้าง 3.5 – 4 เซนติเมตร ยาว 8 - 10 เซนติเมตร โคนใบมน ปลายมนหรือหยักเป็นติ่งสั้น ๆ เนื้อใบเกลี้ยงเป็นมัน
ดอก สีขาว กลิ่นหอมจัด ออกเป็นช่อใหญ่ตามปลายกิ่งหรือเหนือรอยแผลใบ มีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบโคนเชื่อมติดกัน เมื่อดอกย่อยบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 ซม. กลีบดอก 5 กลีบ เรียงเวียนกันแบบกังหัน เกสรตัวผู้ 15 อัน
ฝัก/ผล รูปกระสวยกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงเจริญไปเป็นปลีกยาวปลายแหลมมีปีกยาว 3 ปีก ปีกสั้น 2 ปีก
ฤดูกาลออกดอก: ธันวาคม – กุมภาพันธ์ ออกดอกพร้อมกันทั้งต้น
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด เด็ดปีกออกก่อนนำไปเพาะ และการตอนกิ่ง
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก
การใช้ประโยชน์:
- ไม้ประดับ
- สมุนไพร
- เนื้อไม้มีลักษณะคล้ายไม้ตะเคียนทอง ใช้ในการก่อสร้าง เครื่องเรือน
แหล่งที่พบ: ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้งและชื้น ตลอดจนป่าดิบแล้งทั่วไปแทบทุกภาค ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 60 - 1200 เมตร
สรรพคุณทางยา:
- เปลือกมีรสฝาดใช้เป็นยา สมานลำไส้ ใส่เครื่องหมักดองเพื่อกันบูด ใช้ฟอกหนัง
- ดอกผสมยาแก้ไข้ และยาหอมแก้ ลม บำรุงหัวใจชันใช ผสมน้ำมันทาไม้ ยาเรือ